วันสำคัญของไทย วันที่ 20 กันยายน วันอนุรักษ์รักษาคูคลองแห่งชาติ

วันอนุรักษ์รักษาคูคลองแห่งชาติ

20 กันยายน

ประวัติวันอนุรักษ์รักษาคูคลองแห่งชาติ

ย้อน กลับไปเมื่อ 10 กว่าปีก่อน พ.ศ.2537 ภาพคลองแสนแสบในจินตนาการของผู้คน โดยเฉพาะคนเมืองหลวงคงไม่พ้นภาพคลองน้ำครำสายใหญ่ สายยาวที่สุดของกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะนับจากต้นคลองที่สะพานผ่านฟ้า ผ่านย่านราชเทวี ประตูน้ำ คลองตัน จนถึงบางกะปิ คลองที่รกเรื้อเต็มไปด้วยวัชพืช เช่น หญ้าคา ผักตบชวา ประชาชนไม่ได้ใช้ประโยชน์ใด ๆจากคลองสายนี้อีกแล้ว ลบภาพคลองแสนแสบที่น้ำใสแจ๋วและภาพดำผุดดำว่ายของไอ้ขวัญ-อ้ายเรียมไปอย่าง สิ้นเชิง

แม้ว่าชาวบ้านจะพยายามกันแล้วที่จะพัฒนาคู คลองดังกล่าว แต่ก็เมือนว่าเกินกำลัง เพราะปัญหาคลองแสนแสบมิได้เกิดขึ้นเพียงวันสองวัน และไม่ได้เกิดจากธรรมชาติ แต่เกิดจากฝีมือของมนุษย์ที่มักง่ายและไม่รู้คุณค่า

มากลาง ปี 2537 มีกลุ่มผู้รักน้ำ และอับอายที่เห็นคูคลองทั่วกรุงเทพกลายเป็นท่อน้ำครำขนาดใหญ่ ซึ่งร่วมด้วยกองทัพบกตลอดจนสถาบันการศึกษาลงไปถึงโรงเรียนประถมและมัธยมทั่ว กรุงเทพมหานคร ได้รวมตัวกันในชื่อโครงการว่า “โครงการรวมใจภักดิ์รักษ์คลองแสนแสบ”

กระทั่งวันที่ 20 กันยายน 2537 สมเด็จพระเทพรัตนสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จประพาสตรวจสอบคลองแสนแสบ และเยี่ยมประชาชนสองฝั่งคลองระยะทางตั้งแต่กรุงเทพมหานครถึงจังหวัด ฉะเชิงเทรา ระยะทาง 72 กิโลเมตร ใช้เวลา 5-6 ชั่วโมง ตามคำกราบบังคมทูลเชิญของชมรมรวมใจภักดิ์รักต้นไม้ แม่น้ำลำคลอง และสิ่งแวดล้อม

ด้วยเหตุนี้ คณะรัฐมนตรีจึงมีมติให้วันที่ 20 กันยายน ของทุกปีเป็นวันอนุรักษ์และพัฒนาแม่น้ำ คู คลองแห่งชาติ ให้ปี 2544-2546 เป็นปีแห่งการอนุรักษ์และพัฒนาแม่น้ำ คู คลอง มีการตั้งคณะกรรมการระดับชาติเพื่อเป็นองค์กรหลักในการอนุรักษ์และพัฒนาสภาพ แวดล้อม แม่น้ำ คู คลอง

โครงการนำร่องเพื่อการอนุรักษ์และพัฒนาสภาพแวดล้อม
โครงการนำร่องเพื่อการอนุรักษ์และพัฒนาสภาพแวดล้อมเริ่มต้นที่ คลองอัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม คลองอ้อมนนท์-คลองบางกอกน้อย-คลองบางกรวย-จังหวัดนนทบุรี คลองด่าน-คลองบางขุนเทียน-คลองสนามชัย-กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นคลองสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่แตกต่างกันไป

คลองอัมพวา
เป็นคลองที่ตัดเชื่อมแม่น้ำแม่กลอง ริมฝั่งคลองเป็นที่ตั้งของวัดอัมพวันแจติยารามซึ่งเป็นสถานที่ประสูติของพระ มเหสีในรัชกาลที่ 1 และพระปรางค์ที่บรรจุพระบรมอัฐิของรัชกาลที่ 2 บริเวณท่าน้ำวัดดาวดึงษ์ เป็นที่ตักน้ำไปใช้ในพิธีสรงมุรธาภิเษกหรือพระราชพิธีสำคัญต่างๆ ในทุกรัชกาลจนถึงปัจจุบัน และมีประเพณีโบราณ การแข่งเรือโบราณ ประเพณีลอยกระทง ซึ่งยังมีการจัดเป็นประจำทุกปี

คลองอ้อมนนท์ – คลองบางกอกน้อย – คลองบางกรวย นนทบุรี
เป็นย่านชุมชน แหล่งพืชผลทางเกษตร และเป็นศูนย์กลางการติดต่อค้าขายมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา กรุงธนบุรี และกรุงรัตนโกสินทร์ ปัจจุบันยังมีบ้านทรงไทย และร่องรอยทางประวัติศาสตร์ วิถีชีวิตแบบดั้งเดิมหลงเหลือให้เห็นอยู่

คลองด่าน – คลองบางขุนเทียน – คลองสนามชัย กรุงเทพฯ
เป็นเส้นทางคมนาคมทางน้ำที่เชื่อมโยงการเดินทางระหว่างกรุงเทพฯกับหัวเมือง ใกล้เคียงต่างๆ สมุทรปราการ สมุทรสาคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี กรุงศรีอยุธยาตั้งแต่โบราณ โดยเชื่อมกับแม่น้ำเจ้าพระยาสายเก่าที่เรียกว่า คลองบางกอกใหญ่หรือคลองบางหลวงไปออกแม่น้ำท่าจีน

ความสำคัญของ แม่น้ำ ลำคลอง
แม่น้ำลำคลองในอดีตนั้นมีบทบาทสำคัญมาก ตลอดสองฝั่งคลองเป็นที่ตั้งถิ่นฐานบ้านเรือนของมนุษย์ ทำให้มีการใช้เส้นทางคมนาคมขนส่งทางน้ำเป็นหลัก ทั้งยังเป็นแหล่งน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคเพื่อการเกษตร เป็นแหล่งผลิตอาหาร และยังเป็นแหล่งกำเนิดศิลปวัฒนธรรม ประเพณีทางน้ำมากมาย ประเพณีการแข่งเรือ ประเพณีลอยกระทง สถานที่พักผ่อนหย่อนใจ

ปัจจุบันยังมีการใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ำอยู่บ้าง เพื่อการเกษตร อุตสาหกรรม คมนาคม แต่จากวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปของคนไทย ถนนกลายเป็นเส้นทางคมนาคมขนส่ง ดังนั้นบ้านที่อยู่ติดน้ำจึงกลายเป็นหลังบ้านซึ่งลดความสำคัญลงไป การใช้น้ำจากระบบประปา การสร้างบ้านเรือนที่อิงไปกับเส้นทางถนนมากกว่าริมน้ำ การปลูกสร้างบ้านเรือนรุกล้ำแม่น้ำ คู คลอง รวมถึงการถมพื้นที่ริมน้ำ ทำให้แหล่งน้ำต่างๆ กลายเป็นเพียงที่รองรับและระบายน้ำฝนและน้ำเสียเท่านั้น

ประชาชนมีส่วนอนุรักษ์รักษาคูคลองอย่างไร
ถ้ามีความร่วมมือกันอนุรักษ์แม่น้ำ คู คลองอย่างจริงจัง จะได้ช่วยกันฟื้นฟูสภาพแวดล้อม แม่น้ำ คูคลองให้กลับมีความสำคัญอีกครั้งหนึ่ง เพื่อเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชุมชน เป็นสถานที่ระบายอากาศให้ชุมชน เพื่อสร้างภูมิทัศน์และรักษาพื้นที่ป่าริมน้ำไว้ด้วย เป็นการช่วยอนุรักษ์แหล่งประวัติศาสตร์วัฒนธรรมประเพณี วิถีชีวิตแต่โบราณซึ่งมีคุณค่าและมีเอกลักษณ์ของแต่ละชุมชน
ประชาชนมีส่วนสำคัญในกรอนุรักษ์และพัฒนาสภาพแวดล้อม แม่น้ำ คู คลอง ด้วยการไม่ทิ้งขยะ สิ่งปฏิกูลต่างๆ ลงในแม่น้ำ ลำคลอง มีการบำบัดน้ำเสียจากบ้านเรือนและชุมชน ก่อนระบายลงสู่แม่น้ำ คู คลอง ด้วยระบบบำบัดง่ายๆ การใช้ตะแกรงตักขยะ บ่อดักไขมัน หรือการใช้ระบบบ่อเกรอะ บ่อซึมหรือไม่ปลูกสร้างบ้านเรือนรุกล้ำแม่น้ำ คู คลอง ทั้งหมดนี้ต้องร่วมมือกันสร้างวินัยให้เกิดขึ้น

แหล่งที่มา :

http://www.panyathai.or.th/wiki/index.php/วันอนุรักษ์รักษาคูคลองแห่งชาติ

วันสำคัญของไทย วันที่ 20 กันยายน วันเยาวชนแห่งชาติ

วันเยาวชนแห่งชาติ

20 กันยายน

ประวัติวันเยาวชนแห่งชาติ

วันเยาวชนแห่งชาติได้เริ่มมีขึ้นครั้งแรก เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2528 หลังจากที่องค์การสหประชาชาติได้กำหนดให้ปี พ.ศ. 2528 เป็นปีเยาวชนสากล ดังนั้น เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2528 คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติกำหนดให้วันที่ 20 กันยายน ของทุกปีเป็นวันเยาวชนแห่งชาติ เนื่องจากเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพ พระราชสมภพของพระมหากษัตริย์ แห่งราชวงค์จักรีถึงสองพระองค์ คือ

  • พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชสมภพเมื่อ วันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2396
  • พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ทรงพระราชสมภพเมื่อ วันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2468

และพระมหากษัตริย์ทั้งสองพระองค์ ได้ขึ้นครองราชสมบัติขณะยังทรงพระเยาว์

นอกจากนี้ยังได้มีการส่งเสริมให้เยาวชนที่ กระจายกันทั่วประเทศ ได้ตระหนักว่าเยาวชนต้องเข้ามามีส่วนร่วมรับผิดชอบในการพัฒนาชาติให้มีความ มั่นคงและเจริญรุ่งเรือง โดยเริ่มจากการพัฒนาตนเองให้เป็นผู้มีค่านิยมที่ถูกต้อง ภูมิใจและหวงแหนและอนุรักษ์ไว้ซึ่งความเป็นไทย อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย รู้จักการอดออมและประหยัดรวมทั้งการบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อสังคมและ ประเทศชาติ ยึดมั่นการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข

นอกจากหน่วยงานของรัฐ หน่วยงานภาคเอกชนก็มีส่วนสำคัญในการช่วยพัฒนาและส่งเสริมให้เยาวชนของชาติ เป็นทรัพยากรบุคคลมีคุณภาพ และสถาบันทีมีความสำคัญเป็นอันดับแรกในการพัฒนา คือ สถาบันครอบครัว ซึ่งหากผู้ปกครองมีความเข้าใจ เอาใจใส่ ดูแล ทนุถนอม ให้ความรักความอบอุ่นแก่เยาวชนที่อยู่ในความปกครองอย่างถูกต้องแล้ว ก็จะมีส่วนเป็นอย่างมากในการที่จะนำพาเยาวชนให้เป็นบุคคลที่มีทั้งคุณภาพและ คุณธรรม ซึ่งจะพาประเทศชาติให้เจริญรุงเรืองต่อไปในภายภาคหน้า

ความหมายคำว่าเยาวชน

พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 ได้ให้ความหมายของคำว่า “เยาวชน” ไว้ดังนี้ (ราชบัณฑิตยสถาน พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 หน้า 673)

เยาวชน หมายถึง บุคคลที่มีอายุเกิน 14 ปีบริบูรณ์ แต่ยังไม่ถึง 18 ปีบริบูรณ์ และไม่ใช่ เป็นผู้บรรลุนิติภาวะแล้วด้วยการสมรส

องค์การสหประชาชาติ (สุภักดิ์ อนุกูล วันสำคัญของไทย, หน้า 82) ได้ให้ความหมายสากลของคำว่า เยาวชน หมายถึง คนในวัยหนุ่มสาว คือ ผู้มีอายุระหว่าง 15 – 25 ปี

เยาวชน เป็นกลุ่มคนที่มีพลังอันสำคัญที่สามารถช่วยกันเสริมสร้างกิจกรรมที่เป็น ประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศชาติในอนาคต เยาวชนควรตระหนักในคุณค่าของตนเองที่ร่วมแรงร่วมใจ สามัคคี และเสียสละส่วนตนเพื่อประโยชน์ส่วนรวม มีคุณธรรม จริยธรรม และสติปัญญาอันชาญฉลาด ในการสร้างสรรค์สิ่งที่ดีงามแก่สังคม และนำพาประเทศชาติสู่ความเจริญรุ่งเรือง

เป้าหมายของวันสำคัญ มี 3 ประการ คือ

  1. เพื่อให้เยาวชนช่วงอายุ 15 – 25 ปี ได้ตระหนักนึกความสำคัญในการพัฒนาตนเอง พัฒนาชุมชน พัฒนาประเทศ
  2. เพื่อให้ประชาชนทั่วไป ได้ตระหนักถึงความสำคัญต่อประเทศชาติทั้งในด้านคุณภาพคุณธรรม
  3. เพื่อให้นโยบายส่งเสริมและพัฒนาเยาวชนดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง สัมฤทธิ์ผล

กิจกรรมต่าง ๆ ที่ควรปฏิบัติในวันเยาวชนแห่งชาติ

  1. จัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อเผยแพร่ความสำคัญ หน้าที่ ของเยาวชนเพื่อให้เยาวชน และประชาชนทั่วไปได้ตระหนักและเข้าใจ
  2. ร่วมกิจกรรมต่าง ๆ เช่น กิจกรรมสาธารณประโยชน์กิจการเพื่อการกุศล กิจกรรมในชุมชน ฯลฯ

คำขวัญวันเยาวชนแห่งชาติ

องค์การสหประชาชาติได้ประกาศให้ปี 2528 เป็นปีเยาวชนสากล โดยใช้คำขวัญ Participation, Development and Peace ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบให้วันที่ 20 กันยายนของทุกปี เป็นวันเยาวชาติ และมอบคำขวัญที่ถอดความเป็นภาษาไทยว่า ร่วมแรงแข็งขัน ช่วยกันพัฒนา ใฝ่หาสันติ ซึ่งมีความหมายละเอียดลึกซึ้งต่อเยาวชนทุกคน สามารถยึดถือและนำไปปฏิบัติดังนี้

ร่วมแรงแข็งขัน (participation) หมายถึง การยอมรับในศักยภาพของแต่ละบุคคล ที่จะสามารถวินิจฉัยและตัดสินใจในเรื่องที่เกี่ยวกับตนเอง และตระหนักว่าตนมีโอกาส ได้ใช้โอกาสและพึงพอใจที่ได้ใช้โอกาสด้วยตนเองอย่างเกิดคุณค่าโดยไม่ตกเป็น เครื่องมือของผู้ใด การที่เยาวชนสามารถมีส่วนร่วมและมีบทบาทต่อชาติบ้านเมืองได้อย่างเต็มที่ นั้น เป็นความสำเร็จของสังคมและประเทศชาติที่สำคัญ

ช่วยกันพัฒนา (development) การพัฒนานั้นมองได้ 2 มิติ มิติหนึ่งคือ การพัฒนาตนเองของแต่ละบุคคล และอีกมินิหนึ่งคือ การพัฒนาสังคมและประเทศชาติ หากบุคคลพัฒนาตนเองได้ดีก็จะเป็นกำลังสำคัญ และอีกมิติหนึ่งคือการพัฒนาสังคมและประเทศชาติ หากบุคคลพัฒนาตนเองได้ดีก็จะเป็นกำลังสำคัญและมีคุณค่าต่อการพัฒนาสังคมและ ประเทศชาติ ขณะเดียวกัน การพัฒนาสังคมและประเทศชาติก็จะเป็นพลังขับเคลื่อนการพัฒนาของบุคคลด้วย กระบวนการพัฒนา 2 ส่วนนี้ จึงมีความต่อเนื่อง สัมพันธ์กัน และในสภาวะปัจจุบัน ความร่วมมือในระดับนานาชาติ จะมีผลอย่างสำคัญยิ่งต่อความก้าวหน้าในการพัฒนาประเทศ

ใฝ่หาสันติ (peace) สันติภาพเป็นหลักการพื้นฐานของชีวิต ความต้องการสันติภาพ เป็นความต้องการของสากลโลก ซึ่งทุกคนต้องรับผิดชอบร่วมกันเพื่อให้เกิดสันติภาพและดำรงคงไว้ คนหนุ่มสาวจึงต้องร่วมมือกันในเรื่องนี้ ผลักดันให้เกิดมาตรการที่จะสร้างความเชื่อมั่นในวิถีการพัฒนาด้วยสันติ และสร้างสำนึกสันติภาพ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปลูกฝังสั่งสอนเยาวชนให้รู้จักเคารพในศักดิ์ศรี ความเป็นมนุษย์ และสิทธิมนุษยชน มีความอดกลั้น ความเป็นประชาธิปไตย และเสรีภาพพื้นฐาน

 

เครื่องหมายเยาวชนแห่งชาติ

ความเป็นมาของเครื่องหมายเยาวชนแห่งชาติ

ในปี พ.ศ.2517 สำนักเยาวชนแห่งชาติ ได้เสนอต่อคณะกรรมการบริหารและประสานงานเยาวชนแห่งชาติว่า เพื่อประสิทธิภาพและความมั่นคงในการดำเนินงานเยาวชนแห่งชาติ สมควรที่ขอรับพระราชทาน เครื่องหมายเยาวชนแห่งชาติ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ผูกพันพลังน้ำใจ และเป็นเครื่องยึดมั่นสักการบูชาร่วมกันของบรรดาเยาวชน กลุ่มเยาวชน และหน่วยงานที่ทำงานเกี่ยวกับเยาวชน จึงได้เสนอขออนุมัติต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อนำความกราบบังคมทูลทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท ซึ่งสำนักพระราชเลขาธิการได้นำความกาบบังคมทูลพระกรุณาทราบฝ่าละอองธุลีพระ บาท แล้ไม่ทรงขัดข้อง จึงมีพระบรมราชานุญาตให้นำพระมหาพิชัยมงกุฎประดับบนส่วนยอดเครื่องหมายเยวชน แห่งชาติ

ความหมายเครื่องหมายเยาวชนแห่งชาติ

เครื่องหมายเยาวชนนี้ได้รับพระราชทาน และพระบรมราชานุญาตให้ใช้พระมหาพิชัยมงกุฎบนส่วนยอดของเครื่องหมาย เพื่อเป็นมิ่งขวัญ กำลังใจ และศิริมงคลแก่ชีวิตของเยาวชน รูปลักษณะของเครื่องหมายนี้เป็นรูปโล่สีธงชาติ มีอักษรคำว่า เยาวชน สีขาวอยู่ในวงกลมพื้นสีเขียว เบื้องบนเป็นรูปพระมหาพิชัยมงกุฎ มีรัศมีอุณาโลม เบื้องล่างมีอักษรสีแดงว่า พลังพัฒนาชาติ รองรับด้วยรวงข้าว 9 รวง แยกอยู่ทางด้านขวา 5 รวง ด้านซ้าย 4 รวง ซึ่งสัญลักษณ์ต่างๆ เหล่านี้อธิบายได้ดังนี้คือ

1. พระมหาพิชัยมงกุฎ เป็นเครื่องหมายแทนองค์พระมหากษัตริย์ องค์ประมุขสูงสุดของประเทศ ซึ่งเป็นที่เคารพ สักการะ และเป็นจุดรวมน้ำใจของคนทั้งประเทศ

2. รัศมีที่พระมหาพิชัยมงกุฎ หมายถึง พระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งหมายความว่า เยาวชนไทยนั้นอยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์ของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หรือได้รับพระบารมีปกเกล้าฯ

. อุณาโลม หมายถึง หว่างพระขนงของพระพุทธเจ้า ใช้เป็นเครื่องหมายแทนศาสนา

4. อักษรเยาวชนสีขาวในพื้นวงกลมสีเขียวรูปโล่สีธงชาติ หมายถึง พลังอันบริสุทธิ์แห่งความสามัคคีเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของเยาวชนไทย อันจะนำไปสู่ความสำเร็จ การเปลี่ยนแปลง และการพัฒนาการกสิกรรม อันเป็นพื้นฐานทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ

5. รวงข้าวทั้ง 9 รวง มีความหมายถึง เป้าหมายในการพัฒนาเยาวชนทั้ง 9 ประการ ตามนโยบายเยาวชนแห่งชาติ โดยที่รวงข้าวหมายถึง ความเติบโตงอกงาม ฉะนั้น คุณลักษณะ 9 ประการที่จะปลูกฝังให้เกิดขึ้นในตัวเยาวชน จึงเปรียบเสมือนคุณสมบัติที่จะงอดงามขึ้นตามตัวเยาวชน

6. อักษรว่า พลัง พัฒนาชาติ เป็นคำขวัญ เพื่อเตือนใจเยาวชนให้ตระหนักว่า พวกเขานั้นมีพลังบริสุทธิ์อันหนักแน่น จริงจัง ที่สามารถใช้ประโยชน์ได้มากในการช่วยพัฒนาประเทศชาติ

แหล่งอ้างอิง
1. ธนากิต. วันสำคัญของไทย. กรุงเทพฯ : ชมรมเด็ก,2541.
2. วรนุช อุษณกร. ประวัติวันสำคัญที่ควรรู้จัก. กรุงเทพฯ : โอ.เอส.พริ้นติ้ง เฮ้าส์,2528.