ข้อควรรู้ในการประกาศขายบ้าน เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด

การขายบ้านผ่านทางอินเทอร์เน็ทนั้น อาจจะเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด แต่ก็ไม่ง่ายซะทีเดียว เพราะการขายบ้านผ่านทางอินเทอร์เน็ตนั้น จะต้องแข่งขันกับผู้อื่นมากมาย โอกาสที่คุณจะขายบ้านได้จึงมีเพียง 20% เท่านั้น แต่ถ้าคุณรู้จักใช้เทคนิคต่างๆเข้ามาช่วยในการประกาศขายบ้านล่ะก็ คุณก็จะมีโอกาสขายบ้านได้ถึง 70% เลยทีเดียว และยังอาจจะขายได้ราคาอีกด้วย นอกจากมีเทคนิคต่างๆแล้ว คุณจะต้องรู้ว่ามีอะไรที่ไม่ควรทำในการลงประกาศขายบ้านของคุณบ้าง เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่จะเกิดขึ้น และทำให้คุณขายบ้านไม่ได้นั่นเอง ซึ่งสิ่งที่จะต้องรู้ มีดังนี้

ข้อควรรู้ในการประกาศขายบ้าน เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด

1. ตั้งราคาสูงเกินจริง

การตั้งราคาสูงเกินจริงจะทำให้มีผู้ที่สนใจบ้านของคุณน้อยลง หรืออาจจะไม่มีเลยก็ได้ เพราะผู้ซื้อส่วนใหญ่จะเปรียบเทียบราคาของบ้านแบบเดียวกันในหลายๆประกาศก่อนซื้อเสมอ เพื่อให้ได้บ้านในราคาที่ถูกและคุ้มค่าที่สุด ดังนั้น หากคุณตั้งราคาที่สูงจนเกินไป ถึงแม้ว่าประกาศของคุณจะค้นพบได้ง่าย แต่ด้วยราคาที่แพง ก็คงไม่มีผู้สนใจซื้อบ้านของคุณอยู่ดี

2. ปรับปรุงและเสริมส่วนต่างๆของบ้านมากเกินความจำเป็น

เมื่อคุณคิดที่จะขายบ้าน หากบ้านของคุณอยู่ในสภาพดีและน่าสนใจอยู่แล้วก็ไม่ควรเสริมแต่งส่วนต่างๆของบ้านเพิ่ม เพราะการเพิ่มเติมส่วนต่างๆของบ้านมากเกินไป จะทำให้บ้านมีราคาสูงขึ้นไปด้วย ซึ่งบางครั้งราคาที่คุณตั้งขายหลังจากตกแต่งบ้านแล้ว อาจจะดูแพงเกินไปสำหรับผู้ซื้อก็ได้ แต่ถ้าบ้านของคุณมีสภาพที่ต้องสร้อมแซมหรือต้องปรับปรุง คุณก็สามารถที่จะปรับปรุงเพิ่มเติมได้ แต่ควรปรับปรุงเพิ่มเติมในส่วนที่จำเป็นเท่านั้น และไม่ควรใช้วัสดุที่มีราคาแพงเกินไป

3. บ้านยังไม่พร้อมที่จะขาย

สิ่งที่คุณไม่ควรทำมากที่สุด ก็คือการประกาศขายบ้านทั้งที่บ้านของคุณยังไม่พร้อมขาย เพราะหากมีลูกค้ามาติดต่อซื้อ แล้วบ้านของคุณยังไม่พร้อม ลูกค้าก็อาจจะเปลี่ยนใจไม่ซื้อเลยก็ได้ นอกจากนี้ บางครั้งลูกค้าอาจจะขอชมบ้านจริงก่อน เพื่อตัดสินใจซื้อ ดังนั้นคุณจะต้องเตรียมบ้านของคุณให้พร้อมขายก่อน จึงจะลงประกาศขาย เพื่อพร้อมให้ลูกค้าเข้าชมและเข้ามาอยู่ได้ทันทีนั่นเอง

4. เร่งรัดผู้ซื้อจนเกินไป

การขายบ้ายควรให้เวลาผู้ซื้อได้สำรวจบ้านเพื่อที่จะตัดสินใจ เพราะหากคุณไปเร่งรัดเขามากเกินไป หรือไม่เปิดโอกาสให้เข้าได้สำรวจบ้านเลย ก็คงไม่มีลูกค้าคนไหนซื้อบ้านของคุณหรอก ดังนั้น ในการขายบ้าน คุณควรให้เวลาลูกค้าได้สำรวจบ้านอย่างเต็มที่ ส่วนลูกค้าจะซื้อหรือไม่ซื้อนั้น ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของลูกค้า ไม่ควรไปเร่งรัดให้เขาซื้อ เพราะจะทำให้เขารู้สึกไม่ดีได้

5. เสียเวลากับผู้ซื้อบางประเภทเกินไป และไม่สนใจผู้ซื้อที่ต่อรองราคา

เวลาที่คุณประกาศขายที่ดินนั้น จะมีลูกค้าทั้งแบบที่ต้องการติดต่อถามราคาไว้ก่อน และลูกค้าแบบที่ต้องการซื้อเลย ซึ่งลูกค้าทั้งสองแบบนี้ มักจะมาในรูปแบบดังนี้ เสมอ

ผู้ซื้อที่ต้องการเช็คราคาไว้ก่อน

ผู้ซื้อประเภทนี้ จะเข้ามาติดต่อเพื่อเช็คราคาไว้ก่อน โดยทีส่วนใหญ่จะไม่ต่อรองราคาใดๆทั้งสิ้น เพียงแต่ผู้ซื้อยังไม่ตัดสินใจซื้อเท่านั้นเอง ซึ่งบางทีผู้ซื้ออาจจะถามไว้เพื่อเปรียบเทียบกับประกาศขายบ้านหลังอื่นๆเฉยๆ แล้วอาจจะไม่ซื้อก็ได้

ส่วนใหญ่ผู้ขายมักจะเสียเวลากับผู้ซื้อแบบนี้มากเกินไป เพราะชอบที่ผู้ซื้อไม่ต่อราคา แต่รู้หรือไม่ว่าบางครั้งเขาก็อาจจะไม่ซื้อบ้านของคุณจริงๆก็ได้ ดังนั้น หากคุณรอให้ผู้ซื้อคนนี้มาติดต่อซื้อหลังจากถามราคาไปแล้ว อาจจะเป็นเวลานานมากทีเดียว และบางทีเขาก็อาจจะไม่ติดต่อกลับมาแล้วก็ได้ ซึ่งจะทำให้คุณต้องเสียเวลาเป็นอย่างมาก

ผู้ซื้อที่ต่อรองราคา

ผู้ซื้อประเภทนี้ต้องการซื้อบ้านของคุณจริงๆ เพียงแต่เขาต้องการต่อรองราคาลงหน่อย ด้วยเหตุผลงบไม่พอ หรือไม่ก็ราคาบ้านของคุณแพงไปหน่อย ซึ่งเป็นธรรมดาของผู้ซื้ออยู่แล้วที่จะต้องต่อรองราคาให้ต่ำลง ก็เหมือนกับผู้ขายที่ต้องการจะขายบ้านให้ได้ในราคาที่สูงขึ้นนั่นเอง

ผู้ขายมักจะมองข้ามผู้ซื้อประเภทนี้ แล้วมักจะไม่สนใจผู้ซื้อประเภทนี้ แต่ความจริงแล้ว คุณควรสนใจผู้ซื้อประเภทนี้ก่อนนะคะ เพราะผู้ซื้อประเภทนี้ต้องการซื้อบ้านของคุณจริงๆ เพียงแต่เขาต้องการต่อราคาลงหน่อยเท่านั้น แค่ยอมเสียนิดหน่อยก็คงไม่เป็นไรไม่ใช่หรอคะ คุณอาจจะไม่จำเป็นต้องยอมขายในราคาที่ผู้ซื้อต่อรองมาก็ได้ แต่คุณอาจจะต่อรองกลับไปเพื่อให้ราคาสมดุลและอยู่ในราคาที่พอใจกันทั้งสองฝ่ายก็ได้ เพียงแค่นี้คุณก็จะขายบ้านได้อย่างรวดเร็วแล้วล่ะ

6. ไม่จ้างนายหน้า

หลายๆคนอาจจะมองว่าการจ้างนายหน้านั้นไม่ใช่เรื่องที่สำคัญ แต่ความจริงแล้วนายหน้ามีความสำคัญกับการซื้อขายบ้านมากทีเดียว เพราะนายหน้าเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญและรู้ข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อขายที่ดินมากที่สุด แต่หากว่าคุณไม่ต้องการจ้างนายหนน้าจริงๆ คุณควรศึกษาข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับการขายที่ดินให้ดี และที่สำคัญจะต้องศึกษาถึงกลโกงต่างๆที่ผู้ซื้ออาจจะนำมาใช้โกงคุณได้

7. มองข้ามการอ่านสัญญา

การอ่านสัญญานั้น เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะในสัญญาจะระบุถึงข้อตกลงต่างๆระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายไว้ ดังนั้นคุณจะต้องอ่านสัญญาให้ครบถ้วนก่อนที่จะเซ็นสัญญา ซึ่งหลายๆคนอาจจะมองข้ามจุดนี้ไป เพราะความที่สัญญามีความยาวมากจึงขี้เกียจอ่านนั่นเอง อีกทั้งยังไม่ระแวงระวังว่าจะถูกโกงอีกด้วย

การขายบ้านจะต้องศึกษารายละเอียดต่างๆให้ดี และที่สำคัญจะต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก เพราะอาจจะเจอพวกมิจฉาชีพได้ทุกเมื่อ ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการขายบ้านก็คือสัญญา ไม่ว่ามันจะมีความยาวจนน่าเบื่อขนาดไหน คุณก็จะต้องอ่านให้ครบและอ่านอย่างถี่ถ้วนก่อนเซ็นสัญญาเสมอ และการขายบ้านจะะต้องทำอย่างรอบคอบ ดังที่ได้กล่าวไว้ในบทความนี้ เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดตามมา