เพราะอะไรจึงไม่ควรลงทุนในบัญชีเงินฝาก?

เพราะอะไรจึงไม่ควรลงทุนในบัญชีเงินฝาก?

บัญชีเงินฝากเป็นสิ่งที่ผู้คนส่วนมากมีไว้ในครอบครอง เพราะนอกจากจะได้รับความอุ่นใจด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของธนาคารและการ ประกันการคืนเงินส่วนหนึ่งในกรณีที่ธนาคารโดนปล้นหรือล้มละลายแล้ว ยังทำให้ได้ดอกเบี้ย ซึ่งดีกว่าการมาเก็บเงินสดไว้ในตู้เซฟเฉยๆ แต่กระนั้นใช่ว่าบัญชีเงินฝากจะดีเสมอไป เพราะอัตราดอกเบี้ยที่ได้จากเงินฝากนั้นไม่เท่าอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น ทุกวัน อัตราเงินเฟ้อคือตัวที่จะกำหนดค่าของเงินในประเทศ ยิ่งเงินเฟ้อสูง นั่นหมายความว่าค่าของเงินยิ่งลด ซึ่งทุกประเทศล้วนมีอัตราเงินเฟ้อโดยเป็นผลมาจากการเติบโตของเศรษฐกิจ และอัตราเงินเฟ้อของประเทศไทยในปี 2557 อยู่ที่ร้อยละ 2.18 ดังนั้นเมื่ออัตราดอกเบี้ยของเงินฝากออมทรัพย์ทั่วไปในปัจจุบันนั้นอยู่ที่ ประมาณร้อยละ 0.6 ซึ่งต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อ จึงหมายความว่าการฝากเงินในบัญชีออมทรัพย์ทำให้เงินของคุณลดลงหากวัดเทียบ กับอัตราเงินเฟ้อ ทำให้บัญชีเงินฝากประจำอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า แต่ก็เพิ่มความเสี่ยง เช่น ในกรณีที่คุณเกิดอุบัติเหตุและต้องการใช้เงินฉุกเฉิน หากคุณถอนเงินออกจากบัญชีก็จะทำให้ไม่ได้รับดอกเบี้ย และถึงแม้คุณจะสามารถฝากเงินได้ครบตามจำนวนปี แต่ถ้ามีทางเลือกอื่นๆ ในตลาดการลงทุนที่คุณสามารถทำเงินจากเงินฝากได้เยอะกว่าและอาจคุ้มค่ากว่า คุณก็จะพลาดโอกาสนั้นๆ ไป สำหรับตัวอย่างทางเลือกอื่นๆ ในตลาดการลงทุนมีดังนี้

1.กองทุน กองทุนโดยปกติแล้วมักมีผลตอบแทนที่สูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากประจำ แต่ผลตอบแทนก็มักถูกผูกกับสภาวะเศรษฐกิจทำให้มีความเสี่ยงที่จะขาดทุนได้ เช่นกัน แต่กองทุนมีหลากหลายประเภทตั้งแต่ความเสี่ยงต่ำไปจนถึงความเสี่ยงสูง กองทุนอย่างกองทุนตราสารหนี้ถือเป็นกองทุนที่ความเสี่ยงต่ำจนแทบเป็นศูนย์ แต่อัตราผลตอบแทนก็อยู่ที่ร้อยละ 1.7 มากกว่าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์แต่น้อยกว่าบัญชีเงินฝากประจำ ขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่ความเสี่ยงต่ำพอกับบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ อยู่ที่ร้อยละ 2.56 กองทุนบางตัวความเสี่ยงสูงกว่าแต่อัตราผลตอบแทนอาจสูงถึงร้อยละ 6 ซึ่งคุณสามารถเลือกลงทุนได้ตามความต้องการ แต่ต้องจำไว้เสมอว่า High Risk High Return

2.ตราสารหนี้ภาคเอกชน ทางเลือกนี้อาจทำให้เงินคุณจมอยู่ประมาณ 5-7 ปี แต่เมื่อเทียบกับผลตอบแทนปีละร้อยละ 4 ถึง 5 นั้นก็นับว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ แต่คุณอาจต้องมีเงินทุนที่เยอะพอสมควรจึงจะสามารถซื้อตราสารหนี้ได้ ซึ่งตราสารหนี้ภาคเอกชนนั้นจะมีผลตอบแทนซึ่งสูงกว่าอัตราเงินเฟ้อแน่นอน แต่ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุนในตราสารหนี้ใดๆ คุณก็ควรศึกษาให้รอบคอบ เพราะตราสารหนี้ อีกชื่อหนึ่งก็คือ หุ้นกู้ ซึ่งหลักการของหุ้นกู้ก็คือการขอกู้ยืมเงินของบริษัทเอกชนจากประชาชนและนัก ลงทุนต่างๆ ดังนั้นคุณควรศึกษาข้อมูลบริษัทผู้ออกตราสารหนี้ให้ดีว่าเป็นบริษัทที่น่า เชื่อถือ ผลประกอบการดี และมีแนวโน้มว่าจะมีการเติบโตสูงในอนาคตอันใกล้หรือไม่ก่อนตัดสินใจลงทุน

3.การลงทุนในทองก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกซึ่งผลตอบแทนสูงและน่าสนใจ เพราะมูลค่าของทองไม่ได้ลดลงเหมือนมูลค่าของเงินตรากระดาษ ทองนับเป็นสิ่งที่สามารถรักษามูลค่าของเงินได้ดีที่สุด เพราะอัตราเงินเฟ้อมักขึ้นตามราคา commodities ส่วนทองมักมีมูลค่าเพิ่มในระยะยาว เพราะฉะนั้นการเก็บทองก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี

4.การซื้อประกันก็นับเป็นการลงทุนที่ดี แม้ว่าจะไม่ได้รับผลตอบแทนในรูปของดอกเบี้ย แต่ก็ช่วยลดความเสี่ยงในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุหรือเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน และประกันบางชนิดเมื่อครบระยะเวลาที่กำหนดคุณก็จะได้รับเงินคืน เปรียบเสมือนการออมทรัพย์และทำประกันระยะยาว

โดยสรุปคุณจะเห็นได้ว่ามีทางเลือกมากมายในตลาดการเงินในปัจจุบันให้คุณ เลือกลงทุนหรือออมเงิน ซึ่งทางเลือกที่เหมาะสมกับตัวคุณที่สุดคือทางเลือกใดนั้น คุณต้องพิจารณาด้วยตนเอง

 

___________________
* โดย : MoneyGuru.co.th หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์