4C ที่ทั้งคนขายและคนรับซื้อเพชรต้องรู้

การซื้อขายเครื่องประดับที่มีมูลค่าสูงอย่างเพชร ทั้งคนซื้อและคนขายต้องรู้จักการประเมินคุณภาพของเพชร ถ้าทราบหลักการประเมินคร่าว ๆ แล้ว ก็จะช่วยให้คนรับซื้อเพชร สามารถซื้อเพชรได้ไม่ขาดทุน ได้ของที่มีคุณภาพดี ส่วนคนขายก็สามารถต่อรองราคา และสามารถกำหนดราคาตามความเหมาะสมกับคุณภาพของเพชร โดยหลักง่าย ๆ ที่จะช่วยประเมินความสวยและความสมบูรณ์ของเพชรในเบื้องต้น คือ หลัก 4C ซึ่งได้แก่

(1) Carat หรือกะรัต ที่เป็นค่าที่บ่งบอกน้ำหนักของเพชร เป็นหน่วยวัดเพชรที่ใช้มาตั้งแต่โบราณ ซึ่งค่าน้ำหนักและขนาดของเพชรที่วัดโดยทั่ว ๆ ไป ในหน่วยกะรัตนั้น เป็นค่าที่ได้จากการประมาณเท่านั้น โดยจะใช้การเปรียบเทียบกับน้ำหนักของถั่ว Carob ซึ่ง 1 เม็ดถั่ว จะหนักเท่ากับ 1 กะรัต หรือประมาณ 0.2 กรัม หรือมีขนาดประมาณ 6.5 มิลลิเมตร ยิ่งเพชรเม็ดใดมีน้ำหนักมาก ก็จะมีราคารับซื้อเพชรที่สูงตามไปด้วยเช่นกัน

(2) Cut หรือการเจียระไน เป็นขั้นตอนสำคัญที่ทำให้เพชรที่เป็นเพียงหิน กลายเป็นอัญมณีที่สะท้อนแสงได้อย่างสวยงาม ยิ่งการเจียระไนที่ละเอียด มุมและเหลี่ยมของเพชรมีความสม่ำเสมอ ราคารับซื้อเพชรก็จะมีค่าสูงขึ้นด้วย ถึงแม้ว่าเพชรเม็ดนั้น จะเป็นเพชรน้ำดี เม็ดใหญ่ บริสุทธิ์ มีสีขาวไร้จุดบกพร่องต่าง ๆ แต่การเจียระไนอยู่ในระดับ “good” เท่านั้น ราคารับซื้อของเพชรเม็ดนั้น ก็ไม่อาจเทียบเท่าเพชรที่ถูกเจียระไนในระดับ “excellent” ได้เลย

(3) Color หรือสีของเพชร ซึ่งสามารถบ่งบอกมูลค่าของเพชรได้ โดยเพชรที่ไม่มีสี หรือเพชรแบบ colorless ที่บริสุทธิ์ เป็นเพชรที่มีราคารับซื้อเพชรที่สูงมาก โดยทั่ว ๆ ไปถ้าคุณต้องการรับซื้อเพชรที่มีมูลค่า ก็ควรเลือกรับซื้อเพชรที่อยู่ในระดับ H ซึ่งเป็นระดับที่เกือบจะไม่มีสี (near colorless) และในขณะเดียวกัน ก็ควรเลือกเพชรที่ผ่านการเจียระไนในระดับ 3 very good คุณก็จะได้เพชรเม็ดงาม ในราคาที่สมเหตุสมผล

(4) Clarity หรือความสะอาด ความบริสุทธิ์ของเพชร เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่เป็นตัวกำหนดราคารับซื้อ หรือราคาขายเพชรเป็นอย่างมาก รายละเอียดหรือสิ่งเจือปนบางประการ อาจไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า ต้องใช้กล้องขยายส่องดู โดยราคารับซื้อเพชรก็จะสูงตามความบริสุทธิ์ โดยความบริสุทธิ์ในระดับ VS1 ถึง VS2 ถือว่าเป็นเพชรที่สะอาด และมีราคารับซื้อที่สูง

หลักเกณฑ์ง่าย ๆ กับหลัก 4C ที่ทั้งคนขายและคนรับซื้อเพชรควรรู้ก่อนการซื้อขายทุกครั้ง ซึ่งจะช่วยทำให้ผู้ขายสามารถตั้งเกณฑ์ราคาไว้ในใจได้อย่างเหมาะสม ป้องกันการเอาเปรียบจากผู้ซื้อ และในส่วนของผู้รับซื้อเพชรเอง ก็สามารถใช้หลักนี้ในการประเมินราคาของเพชรให้เหมาะสมกับคุณภาพได้