นิทานอีสป เรื่อง กระต่ายกับหนู

กระต่ายหิวโซตัวหนึ่งเที่ยวเดินหาอาหารด้วยความกะปลกกะเปลี้ยเพราะไม่ได้กินอะไรมาหลายวัน เนื่องจากในฤดูแล้งหญ้าและ

อาหารในป่าหาได้ยาก ครั้นมาถึงยุ้งของชาวไร่และหาจนพบรูที่พวกหนูเจาะเอาไว้ เนื่องจากตัวมันผอมมากจึงสามารถมุดเข้าไปกิน
ข้าวโพดในยุ้งได้นับแต่นั้นมาเจ้ากระต่ายก็สุขสำราญจนหาใดเปรียบมิได้ กิน นอน ร้องรำทำเพลงอย่างเพลิดเพลินอยู่แต่ในยุ้ง
หลายวันผ่านไปร่างกายของมันก็เริ่มอ้วนขึ้นๆครั้นเมื่อได้ยินเสียงพวกชาวไร่พากันเข้ามาในยุ้งเพื่อนำข้าวโพดไปขาย เจ้ากระต่าย
ตกใจพยายามวิ่งหาทางออก “ให้ตายซิ..” เจ้ากระต่ายตกใจวิ่งพล่าน “ช่องที่เราเข้ามาเคยอยู่แถวๆนี้นี่น่า แล้วนี่มันหายไปไหน มี
แต่รูเล็กๆทั้งนั้นเลย”หนูตัวหนึ่งส่งเสียงหัวเราะด้วยความขบขันก่อนที่จะให้คำแนะนำ “เพื่อนเอ๋ย รูเล็กๆที่เห็นก็คือ ช่องทางเดียวกับ
ที่เจ้าเข้ามานั่นแหละคงต้องรอให้ต้องเจ้าผอมและเล็กลงเท่าเดิมจึงจะออกไปได้

คติสอนใจจากนิทานอีสปเรื่องนี้:

“ความโลภโมโทสันจนเกินเหตุ นำมาซึ่งอุปสรรคและความทุกข์ยาก”

 

นิทานอีสป เรื่อง กระต่ายกับเพื่อน

กระต่ายตัวหนึ่งภาคภูมิใจนักหนาที่สัตว์ทุกตัวในป่าต่างก็เป็นเพื่อนรักของมันทั้งสิ้น วันหนึ่งเมื่อได้ยินเสียงหมาป่าดังมาจากชายทุ่ง

กระต่ายจึงไปหาม้าเพื่อขอให้ม้าพามันขี่หลังหนีจากอันตราย “วันนี้ข้าไม่ว่างจริงๆเพื่อนเอ๋ย” ปฏิเสธ “เจ้าลองไปขอความช่วย

เหลือจากเจ้าวัวดูเถอะ” กระต่ายขอให้วัวช่วยไล่ขวิดขับไล่พวกหมาป่า แต่วัวก็อ้างว่าติดธุระสำคัญ เพราะนางวัวสาวนัดให้มันไป

พบ “ลองไปหาเจ้าแพะดูซิ มันคงช่วยพาเจ้าหนีได้แน่” วัวแนะนำ “แต่ขนของข้าแข็งและหยาบ อาจจะตำก้นของเจ้าให้ได้รับบาด

เจ็บ” แพะบ่ายเบี่ยง “ไปขอให้เจ้าแกะช่วยดีกว่า เพราะขนของมันทั้งยาวและนิ่ม” “ข้าก็อยากจะช่วยเจ้าเหมือนกัน” แกะพูดเอาใจ

“แต่เจ้าก็รู้นี่ว่าหมาป่ามันก็ชอบกินแกะเช่นเดียวกับกระต่ายน่ะแหละ เอาไว้ขอความช่วยเหลืออย่างอื่นดีกว่านะ” ขณะนั้นหมาป่าฝูง

ใหญ่ได้วิ่งพ้นชายเข้าใกล้มากแล้ว กระต่ายจึงตัดสินแผ่นหนีด้วยขาของตน และโชคดีที่หนีพ้นอันตรายไปได้อย่างหวุดหวิดนิทาน

เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ถึงแม้จะมีเพื่อนมากมาย แต่การทำสิ่งใดก็ตามควรหวังพึ่งตนดีที่สุด

คติสอนใจจากนิทานอีสปเรื่องนี้:

“ถึงแม้จะมีเพื่อนมากมาย แต่การทำสิ่งใดก็ตามควรหวังพึ่งตนดีทีสุด”