วันสำคัญของไทย วันที่ 2 เมษายน วันอนุรักษ์มรดกไทย

วันอนุรักษ์มรดกไทย
ทุกวันที่ 2 เมษายน ของทุกปี

วันอนุรักษ์มรดกไทย หมายถึง วันเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดฯ สยามบรมราชกุมารี ที่พระองค์ทรงเป็นแบบอย่าง ในการบำเพ็ญพระราชกรณียกิจและพระราชจริยวัตรในด้านการอนุรักษ์มรดกของชาติใน สาขาต่าง ๆ คือ

  • พุทธศาสนา
  • ภาษาไทยและ วรรณกรรม
  • ประวัติศาสตร์และโบราณคดี
  • งานช่าง
  • สถาปัตยกรรม
  • ดนตรีไทย

รวมทั้งได้เจริญรอยตามเบื้องพระยุคคลบาท ในการสร้างสรรค์และธำรงมรดกของชาติให้ยั่งยืนตกทอดถึงลูกหลานไทยสืบไป

เนื่องในวโรกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดฯ สยามบรมราชกุมารี เวียนมาบรรจบครบรอบ30 พรรษา ในวันที่2 เมษายน2538คณะรัฐมนตรี ซึ่งมี ฯพณฯ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรีในสมัยนั้น ได้มีมติในการประชุมเมื่อวันที่26 กุมภาพันธ์2528ประกาศให้วันที่2 เมษายน ของทุกปีเป็น “วันอนุรักษ์มรดกของชาติ” เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี ที่ได้มีพระวิริยะอุตสาหะบำเพ็ญ พระราชภารกิจในการอนุรักษ์มรดกของชาติในสาขาต่าง ๆ คือ พุทธศาสนา ภาษาไทยและวรรณกรรม ประวัติศาสตร์และโบราณคดี งานช่าง สถาปัตยกรรมและดนตรีไทย

เมื่อถึงวันอันเป็นมหามงคลคล้ายวันราชสมภพทุก ปี พสกนิกรชาวไทยจึงได้รำลึกแบบอย่างที่ทรงมีพระวิริยะอุตสาหะบำเพ็ญ พระราชกรณียกิจและพระราชจริยวัตรในด้านการอนุรักษ์มรดกของชาติ และได้เจริญรอยตามเบื้องพระยุคคลบาท ในการสร้างสรรค์และธำรงมรดกของชาติ ให้ยั่งยืนตกทอดถึงลูกหลานไทยสืบต่อไป พระเกียรติคุณและพระราชภารกิจอันยิ่งใหญ่ ที่ได้ทรงบำเพ็ญและจารึกอยู่ในประวัติศาสตร์ของชาติไทยในด้านการอนุรักษ์ มรดกของชาติมีมากมายนานัปการ ทรงปฏิบัติพระราชภารกิจ ทั้งปวงด้วยพระปรีชาสามารถด้วยพระวิริยะอุตสาหะล้ำเลิศ อำนวยประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชนนานาประการ ในอันที่จะอนุรักษ์ไว้ซึ่งศิลปะวัฒนธรรม อันเป็นมรดกอันล้ำค่าของชาติ

วันอนุรักษ์มรดกไทย ตรงกับวันที่ 2 เมษายนของทุกปี ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในฐานะทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอย่างใหญ่หลวงในงานด้านศิลปวัฒนธรรมของชาติ

คำจำกัดความมรดกไทย

คณะกรรมการอำนวยการวันอนุรักษ์มรดกไทย ได้มีมติเห็นชอบ คำจำกัดความคำว่ามรดกไทย คือ มรดกทางวัฒนธรรมที่แสดงออกถึงสัญลักษณ์ของความเป็นชาติ ซึ่งได้แก่ โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ โบราณ สถาน วรรณกรรม ศิลปหัตถกรรม นาฏศิลป์และดนตรี ตลอดจนถึงการดำเนินชีวิตและคุณค่าประเพณีต่าง ๆ อันเป็นผลผลิตร่วมกันของผู้คนในผืนแผ่นดินในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา

ความเป็นมาของวันอนุรักษ์มรดกไทย

ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีศิลปวัฒนธรรมเป็น เอกลักษณ์อันโดด เด่นมาเป็นเวลาช้านาน ศิลปวัฒนธรรมไทยนับเป็นสิ่งสำคัญในยิ่ง ในอันที่จะหล่อหลอมชาวไทยในภูมิภาคต่างๆ ให้เกิดความสมานฉันท์เป็นอันหนึ่งอันเดียว

แต่เนื่องจากกรเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่เป็นไป อย่างรวดเร็ว มีผลทำให้มรดกทางวัฒนธรรมในแขนงต่างๆ นับตั้งแต่โบราณวัตถุ โบราณสถาน วรรณกรรม ศิลปกรรม นาฏศิลป์ ดนตรี ตลอดจนวิธีการดำเนินชีวิต ค่านิยมและระบบประเพณีต่างๆ ในท้องถิ่นได้รับผลกระทบและถูกละเลยทอดทิ้งและแม้ว่าในภาครัฐบาล จะมีหน่วยงานที่รับผิดชอบเกีามร่วมมือจากทุกฝ่ายให้เข้ามามีส่วนร่วมในการ รักษามรดกวัฒนธรรมของ ชาติให้มากขึ้น

กรมศิลปากรจึงได้นำเสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาเห็นชอบในการที่จะกำหนดช่วงเวลาที่แน่ชัดในรอบปีหนึ่งๆ เพื่อให้ประชาชนชาวไทยได้รำลึกถึงความสำคัญ และความจำเป็นของการอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรมของชาติ เพื่อให้เกิดแนวความคิด ความต้องการในอันที่จะทำนุบำรุงรักษาโบราณสถาน โบราณวัตถุ และศิลปวัฒนธรรมแขนงต่างๆ

ดังนั้น คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2528 ประกาศให้วันที่ 2 เมษายนของทุกปี อันเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ องค์เอกอัคราชูปถัมภกมรดกวัฒนธรรมไทย เป็นวันอนุรักษ์มรดกไทย ด้วยตระหนักในพระปรีชาสามารถทางด้านศิลปวัฒนธรรมของพระองค์ และพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงอนุเคราะห์และสนับสนุนกิจกรรมอันเนื่องด้วยงาน วัฒนธรรมของชาติตลอดมา และในวันที่ 23 กรกฎาคม 2532 ได้มีการจัดตั้งกองทนุอนุรักษ์มรดกไทยขึ้นทุกจังหวัดทั่วประเทศ

โดยแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการวันอนุรักษ์ มรดกไทย เป็นผู้รับผิดชอบการดำเนินการ โดยมี ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการฯ อธิบดีกรมศิลปากร เป็นกรรมการและเลขานุการ พร้อมผู้ทรงคุณวุฒิจากส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจและเอกชน รวม 28 คน เป็นกรรมการ

การจัดงานวันอนุรักษ์มรดกไทย

การจัดงานวันอนุรักษ์มรดกไทยได้ดำเนินการผ่าน มาแล้ว 20 ปี และการจัดงานวันอนุรักษ์มรดกไทยประจำปี 2538 นี้ นับเป็นปีที่ 22 โดยได้รับความร่วมมือจากจังหวัด หน่วยงานเอกชน หน่วยงานของรัฐบาลและประชาชนในการจัดกิจกรรมวันอนุรักษ์มรดกไทยในช่วง สัปดาห์อนุรักษ์มรดกไทย 2 8 เมษายน ของทุกปี บางจังหวัด บางหน่วยงานก็จัดกิจกรรมสนับสนุนตลอดทั้งปี ซึ่งนับว่าประสบผลสำเร็จอย่างดียิ่ง

อนึ่ง นับตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2535 เป็นต้นมา คณะกรรมการอำนวยการวันอนุรักษ์มรดกไทย ได้ปรับเปลี่ยนแนวทางการจัดงานใหม่โดยให้มีทิศทางในการจัดงานแน่นอน คือการกำหนดหัวเรื่องของการจัดกิจกรรมรณรงค์เพื่อการอนุรักษ์มรดกไทย ซึ่งในปีพุทธศักราช 2535 คณะกรรมการอำนวยการวันอนุรักษ์มรดกไทยได้กำหนดให้เป็นปีอนุรักษ์ การดนตรีไทย ปีพุทธศักราช 2536 เป็นปีอนุรักษ์การช่างศิลป์ไทย

ลักษณะกิจกรรมวันอนุรักษ์มรดกไทย

ในแต่ละปีที่ผ่านมานั้นแบ่งออกได้เป็น 3 ลักษณะดังนี้

  1. คัดเลือกบุคคล องค์กร โครงการ และจังหวัดฯ ที่สนับสนุนการวันอนุรักษ์มรดกไทยประจำปี
  2. การจัดกิจกรรมวันอนุรักษ์มรดกไทยในส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค เช่น การจัดนิทรรศการและมหกรรมการแสดงต่าง ๆ โดยการโอนงบประมาณวันอนุรักษ์มรดกไทย ที่รัฐบาลจัดสรรให้ประจำปีให้แต่ละจังหวัดดำเนินการ
  3. กรมศิลปากรจัดทำโครงการพิเศษเรื่องในวัน อนุรักษ์มรดกไทย และกราบบังคมทูลเชิญ สมเด็จ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นประธานเปิดถาวรวัตถุ

การจัดกิจกรรมวันอนุรักษ์มรดกไทย

การจัดกิจกรรมวันอนุรักษ์มรดกไทย จัดมาแล้ว 10 ปี ดังนี้

* พ.ศ. 2528 ประชาสัมพันธ์วันอนุรักษ์มรดกไทย
* พ.ศ. 2529 มรดกไทยทั่วไป
* พ.ศ. 2530 มรดกไทยทั่วไป
* พ.ศ. 2531 มรดกไทยทั่วไป
* พ.ศ. 2532 มรดกไทยทั่วไป
* พ.ศ. 2533 มรดกไทยทั่วไป
* พ.ศ. 2534 มรดกไทยทั่วไป
* พ.ศ. 2535 ดนตรีและนาฏศิลป์ไทย
* พ.ศ. 2536 การช่างศิลป์ไทย
* พ.ศ. 2537 ภาษาและวรรณกรรมไทย
* พ.ศ. 2538 ได้กำหนดเป็นสถาปัตยกรรมไทย

วัตถุประสงค์ของการจัดงานวันอนุรักษ์มรดกไทย

1. เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนได้ตรปวัฒนธรรมของชาติ

2. เพื่อรณรงค์ให้มีการสงวนรักษามรดกทางศิลปวัฒนธรรมของชาติอย่างถูกวิธี

3. เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้ประชาชนและภาคเอกชนได้มีความรู้สึกร่วมในความเป็น เจ้าของโบราณสถานโบราณวัตถุ และร่วมรับผิดชอบดูแลทะนุบำรุงรักษาไว้เป็นมรดกไทยประจำถิ่น

4. เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในท้องถิ่น

5. เพื่อลดอัตราการสูญเสีย และการถูกทำลายของโบราณสถานโบราณวัตถุให้น้อยลง

6. เพื่อสกัดกั้นอิทธิพลของวัฒนธรรมต่างชาติ ซึ่งมีผลให้วัฒนธรรมไทยเบี่ยงเบนเปลี่ยนแปลงทิศทางไป ในวันอนุรักษ์มรดกไทย จังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศได้ร่วมกันจัดกิจกรรมที สร้างเสริมสร้างความรู้เกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมเช่นการจัดนิทรรศการ การจัดการแสดง การฉายภาพยนตร์ ทัศนศึกษาโบราณสถาน และสถานสำคัญทางศาสนา

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
– ห้องสมุดโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย
– สถาบันเด็ก มูลนิธิเด็ก
– วิกิพีเดีย