การกู้เงินหรือสร้างหนี้มีหลายแบบ และมีแบบใหม่ๆ เกิดขึ้นเสมอเพื่อรองรับความต้องการของลูกหนี้ที่มีปัญหาเรื่องเงิน รูปแบบของการสร้างหนี้ มีหลายประเภท เช่น การกู้เงินและจ่ายหนี้แบบรายวัน การกู้เงินผ่านบัตรเครดิต บัตรผ่อนสินค้า กู้เงินโดยจำนอง ขายฝากบ้านหรือที่ดิน เป็นต้น
การกู้เงินและจ่ายหนี้แบบรายวัน
การ กู้เงินแบบนี้ดอกเบี้ยโหดมากๆ เคยมีคนรู้จักกันที่กู้เงินแบบนี้ เงินต้นที่กู้ยืมมา 10,000 บาท จ่ายดอกวันละ 200 บาทต่อวัน จนกว่าจะจ่ายเงินต้นครบ หากคำนวณดอกเบี้ยต่อเดือนแล้ว ดอกเบี้ยมากถึง 6,000 บาทเลยทีเดียว ซึ่งเกินจากอัตราดอกเบี้ยที่กฏหมายกำหนดไว้เยอะมาก นั่นคือดอกเบี้ยห้ามคิดเกิน ร้อยละ 1.25% เท่านั้น ยืม 100 บาทดอกเบี้ย 1.25 บาท ยืม 10,000 ดอกเบี้ยตามกฏหมาย 125 บาทเท่านั้น
การกู้เงินในกรณีนี้ส่วนใหญ่จะปล่อยกู้ไม่มาก เพราะไม่มีหลักฐานอะไร กรณีปล่อยมากๆ หากลูกหนี้หนีหนี้ เงินก็จะสูญไปเปล่าๆ ลูกหนี้หลายคนก็ทำแบบนั้น คิดเอาเองว่า หนีๆ ไปสักพัก ให้เจ้าหนี้ลืม คิดมักง่าย หลายคนที่ยืมจำนวนมากจึงจบชีวิต ส่วนลูกหนี้บางคนก็หน้าด้าน ไม่จ่ายเอาดื้อๆ อยากได้ฟ้องเอา หลายครั้งเหมือนกันที่เจ้าหนี้ใกล้ตัวผม ยกพวกไปถล่มลูกหนี้แบบนี้ ดันไปล่อยเงินกู้ให้นักเลง แล้วให้พี่นักเลงตัวดี ปล่อยต่อ แรกๆ ก็ตามสูตร จ่ายตรง นานวันเข้า ไม่จ่าย ไม่หนี แถมเตรียมลูกปืนพร้อมลุยอีกต่างหาก
การกู้เงินผ่านบัตรเครดิต บัตรผ่อนสินค้า
สำหรับพนักงานบริษัท การใช้เงินล่วงหน้าหรือใช้เงินผ่านบัตรเครดิต จะเป็นการสร้างหนี้ที่ง่าย และพนักงานบริษัทส่วนใหญ่จะเคยเป็นหนี้ทั้งนั้น แต่จะมากหรือน้อย หลายคนหยุดได้ เพราะเคยมีประสบการณ์ที่เลวร้ายจากการใช้เงินผ่านบัตรเครดิตจำนวนมากและเป็น หนี้อยู่หลายปี หลายคนก็ยกเลิกบัตรไปเลยเพราะพนักงานบริษัทมีรายรับทางเดียว คือเงินเดือน อาจจะมีอีกทางก็โบนัสประจำปี หากตำแหน่งงานไม่ดี โบนัสไม่มาก ก็ยากจะหลุดจากการเป็นหนี้ได้ง่ายๆ การแก้ปัญหายอดนิยมที่ไม่ทำให้อะไรดีขึ้นก็คือ กู้อีกใบมาโป๊ะอีกใบ สุดท้ายยิ่งกลายเป็นหนี้ก้อนโต้
สำหรับท่านใดที่เป็นหนี้บัตรเครดิต ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งมีการเปิดเว็บไซต์ตั้งเป็นชมรมให้ความรู้ เปิดคอร์สอน การแก้ไขปัญหาหนี้บัตรเคดิตที่ถูกวิธี ก็จะช่วยให้ชำระหนี้ได้เร็วขึ้น ตัวอย่างเว็บไซต์เช่น debclub.consumerthai.org
กู้เงินโดยจำนอง ขายฝากบ้านหรือที่ดิน
สำหรับคนมีทรัพย์สินเป็นบ้าน หรือที่ดิน การกู้เงินแบบนี้เป็นวิธีที่นิยม ของบรรดาชาวบ้าน ซึ่งส่วนใหญ่จะมีที่ดินเป็นมรดกตกทอด และหลายคนก็ทำให้มรดกที่มีค่าเหล่านี้หายไปกับเจ้าหนี้ เพราะการจำนองเจ้าหนี้หลายคนไม่รับ แต่ต้องทำเป็นขายฝากบ้านหรือที่ดิน เพราะกรณีไม่จ่ายดอกเบี้ยก็ยังมีที่ดินที่ขายฝาก ถือไว้ในมือ จากที่เห็นมา หลายคนไปไม่รอด ต้องจำใจปล่อยที่ในราคาไม่แพง เพระไม่มีเงินมาไถ่ถอนที่ดินหรือบ้านคืนจากเจ้าหนี้
การกู้เงินโดยเอาที่ดินไปจำนองหรือขายฝากแบบนี้ กรณีเป็นที่ขนาดใหญ่ ก็ควรจะแบ่งไว้หลายๆ แปลง หรือหากไม่แน่ใจว่าชีวิตจะไปตลอดรอดฝั่งซึ่งอาจจะเป็นการเริ่มต้นลงทุนทำ ธุรกิจอะไรก็ตาม ก็ควรแบ่งไว้หลายๆ แปลง เพราะเวลาเอาไปจำนองหรือขายฝาก การไถ่คืนเป็นบางแปลงจะง่ายกว่า เวลาเดือดร้อนจะขายก็ง่ายกว่า เพราะสามารถหาเงินมาจ่ายได้ง่ายกว่าการเข้าที่ดินแปลงใหญ่ๆ ไปจำนอง
ปัญหาที่เห็นๆ มาจากบรรดาเจ้าหนี้ใกล้ตัวก็คือ สุดท้ายคนกู้เงินก็ผ่อนไม่ไหว และต้องขายที่ดินในท้ายที่สุด แต่จะปล่อยไปเลยก็ไม่ได้ เพราะตอนจำนองหรือขายฝากจะปล่อยในราคาที่ถูกกว่าราคาจริงมาก และคนรับจำนองหรือขายฝากหลายคนก็ยึดที่ดินไปได้ในราคาไม่แพง เพราะคนกู้ไม่มีเงินจ่ายดอกเบี้ยก็จะปล่อยไปเรื่อยๆ จนดอกเบี้ยบานและก็จะถูกยึดที่ดินในท้ายที่สุด การจะหาคนมาไถ่ที่ดินคืนก็ยาก เพราะไม่ค่อยจะเชื่อใจ และการกู้เงินกรณีนี้ จำนวนเงินค่อนข้างมาก จ่ายเงินออกไปแล้ว แต่ชื่อเจ้าของที่ดิน ยังเป็นเจ้าของเดิม ต้องไปโอนกันอีกต่อที่สำนักงานที่ดิน หากไม่เสร็จในวันเดียว ก็ยากจะไว้ใจกัน …แล้วสุดท้ายก็ลงเอยด้วยการถูกยึดตามระเบียบ
นี่คือคำแนะนำจากคนรับจำนองที่ดินหรือขายฝาก กรณีเป็นที่ดินขนาดใหญ่ให้แบ่งไว้หลายๆ แปลง อย่าเอาแปลงใหญ่ๆ ไปจำนอง เพราะเวลาไถ่คืนจะทำได้ยาก ควรแบ่งแปลงเล็กๆ ไว้ด้วย เผื่อจ่ายดอกเบี้ยไม่ไหว จะได้มีที่ดินอยู่อาศัย ไม่ใช่โดนยึดไปทั้งหมด เพราะเจ้าของเงินกู้ขี้โกงบางคนจะพยายามทุกวิธีที่จะไม่ให้ไถ่คืน หวังจะยึดที่ในราคาถูกๆ ส่วนเจ้าหนี้บางคนที่โกงคนอื่นมา ได้ที่ดินมาในราคาถูก แต่กรรมก็ตามทัน ทำอะไรกับที่ดินตรงนั้นไม่ได้ ขายก็ไม่ได้ กลายเป็นว่าเงินก็ไปจมอยู่ตรงนั้น
ทำความรู้จักการขายฝาก
สำหรับบ้าน สิ่งก่อสร้างหรือที่ดิน จะสามารถขายฝากได้ การขายฝาก จะเป็นการโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินของตนเอง ให้บุคคลอื่น โดยตกลงราคา พร้อมดอกเบี้ย และระยะเวลาที่จะไถ่คืน การทำสัญญาจะต้องไปทำที่สำนักงานที่ดินต่อหน้าพนักงานที่ดิน โดยจะมีการทำสัญญาการไถ่คืนทรัพย์สินในระยะเวลาที่กำหนด หากไม่ตกลงว่าจะไถ่คืน จะตีความเป็นการซื้อขายแบบธรรมดาก็ได้ ต้องศึกษาให้รอบคอบก่อนใช้บริการ
เจ้าหนี้เงินกู้หลายคนจะบังคับให้คนกู้เงิน โดยการเอาบ้านหรือที่ดินมาวางเป็นหลักประกัน ต้องขายฝาก เพราะลูกหนี้หลายคนบางคน ไม่จ่ายดอกเบี้ย ทำให้เจ้าหนี้ได้รับความเสียหาย เพราะขนาดขายฝาก ลูกหนี้หลายคนยังไม่สนใจปล่อยให้ยึดก็เยอะ
