ดอกกันเกรา ดอกไม้ประจำจังหวัดนครพนม
| ดอกไม้ประจำจังหวัด | นครพนม, สุรินทร์ |
| ชื่อดอกไม้ | ดอกกันเกรา |
| ชื่อสามัญ | Anan, Tembusu |
| ชื่อวิทยาศาสตร์ | Fagraea fragrans Roxb. |
| วงศ์ | LOGANIACEAE |
| ชื่ออื่น | กันเกรา (ภาคกลาง), ตะมะซู ตำมูซู (มลายู-ภาคใต้), ตาเตรา (เขมร-ภาคตะวันออก), ตำเสา ทำเสา (ภาคใต้), มันปลา (ภาคเหนือ, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) |
| ลักษณะทั่วไป | ต้นสูงประมาณ 20–30 เมตร ไม่ผลัดใบ เรือนยอดรูปไข่หรือรูปกรวยคว่ำ หนาทึบ ใบเดี่ยว รูปรีหรือแกมใบหอก สีเขียวเข้มเป็นมัน ใต้ใบสีอ่อน ออกดอกเป็นช่อจำนวนมากที่ปลายกิ่ง ดอกสีขาว แล้วเปลี่ยนเป็นสีเหลืองเมื่อใกล้โรย มีกลิ่นหอมเย็น ลักษณะดอกคล้ายแจกัน ออกดอกตลอดปี |
| การขยายพันธุ์ | โดยการเพาะเมล็ด |
| สภาพที่เหมาะสม | เติบโตได้ดีในที่ชื้นแฉะ แสงแดดจัด |
| ถิ่นกำเนิด | ป่าเบญจพรรณและตามที่ใกล้แหล่งน้ำใน ประเทศอินเดีย, มาเลเซีย, พม่า, เวียดนาม และประเทศไทย |
ดอกกันเกรา เป็นดอกไม้ประจำจังหวัด จังหวัดนครพนม, จังหวัดสุรินทร์
ดอกไม้ประจำจังหวัด
ภาคเหนือ
| เชียงราย | เชียงใหม่ | น่าน | พะเยา | แพร่ |
| แม่ฮ่องสอน | ลำปาง | ลำพูน | อุตรดิตถ์ |
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
| กาฬสินธุ์ | ขอนแก่น | ชัยภูมิ | นครพนม | นครราชสีมา |
| บึงกาฬ | บุรีรัมย์ | มหาสารคาม | มุกดาหาร | ยโสธร |
| ร้อยเอ็ด | เลย | ศรีสะเกษ | สกลนคร | สุรินทร์ |
| หนองคาย | หนองบัวลำภู | อำนาจเจริญ | อุดรธานี | อุบลราชธานี |
ภาคกลาง
| กรุงเทพมหานคร | กำแพงเพชร | ชัยนาท | นครนายก | นครปฐม |
| นครสวรรค์ | นนทบุรี | ปทุมธานี | พระนครศรีอยุธยา | พิจิตร |
| พิษณุโลก | เพชรบูรณ์ | ลพบุรี | สมุทรปราการ | สมุทรสงคราม |
| สมุทรสาคร | สระบุรี | สิงห์บุรี | สุโขทัย | สุพรรณบุรี |
| อ่างทอง | อุทัยธานี |
ภาคตะวันออก
| จันทบุรี | ฉะเชิงเทรา | ชลบุรี | ตราด | ปราจีนบุรี |
| ระยอง | สระแก้ว |
ภาคตะวันตก
| กาญจนบุรี | ตาก | ประจวบคีรีขันธ์ | เพชรบุรี | ราชบุรี |
ภาคใต้
| กระบี่ | ชุมพร | ตรัง | นครศรีธรรมราช | นราธิวาส |
| ปัตตานี | พังงา | พัทลุง | ภูเก็ต | ยะลา |
| ระนอง | สงขลา | สตูล | สุราษฏร์ธานี |






