จักจั่นมักจะส่งเสียงร้องเพลงอย่างไพเราะตลอดเวลา
ลาจึงถามจักจั่นว่า
“เพื่อนเอ๋ย เจ้ากินอะไรหรือ จึงมีเสียงที่ไพเราะนัก”
จักจั่นยิ้มเเล้วตอบว่า
“อ๋อ อาหารของข้าก็คือน้ำค้างไงล่ะ”
ลาจึงเข้าใจว่าเพราะจักจั่นกินเเต่น ้ำค้าง อย่างเดียว จึงได้มีเสียงไพเราะ เช่นนั้น ถ้าตนลองกินน้ำค้างบ้าง ก็คงจะร้องเพลงได้ไพเราะอย่างจักจั่น
ตั้งเเต่วันนั้นลาก็กินเเต่น้ำค้าง ไม่กินหญ้าที่เป็นอาหาร ของตน ไม่ช้าไม่นานนัก ลาก็ตายไปเพราะ ความหิวโหย
คติสอนใจจากนิทานอีสปเรื่องนี้:
“สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับผู้อื่นอาจเป็นสิ่งที่เเย่ที่สุดสำหรับเรา”