สิวอีกหนึ่งชนิดที่มักแวะเวียนมาให้ผู้หญิงเรารำคาญใจเสมอก็คือ สิวหัวหนอง เมื่อใดที่ใบหน้าของเราเกิดสิวหัวหนองขึ้นมาล่ะก็ เตรียมพบกับความเจ็บปวดที่จะตามมากันได้เลย นอกจากนี้ บรรดาสิวที่แพร่กระจายหลังจากติดเชื้อแบคทีเรียยังเป็นตัวการทำลายความมั่นใจของเราได้เป็นอย่างดี เพราะฉะนั้น การป้องกันและรักษาอย่างถูกวิธีเมื่อเกิดสิวหัวหนองจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ควรเอาใจใส่ ก่อนที่สิวชนิดนี้จะลุกลามบนผิวหน้าจนรักษายากขึ้น
สิวแบบไหนคือ สิวหัวหนอง
บทความของเราวันนี้จะพาไปทำความรู้จักกับสิวหนอง หรือสิวอักเสบที่มีลักษณะเป็นผื่นเม็ดเล็กที่กระจายตัวอยู่บนผิวหน้า แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ สิวอักเสบที่เกิดขึ้นเม็ดเดียวและสามารถกลายเป็นสิวหัวช้างได้หากอาการรุนแรงขึ้น, สิวหัวหนองเม็ดเล็กที่กระจายตัวบนใบหน้า สำหรับสิวประเภทนี้เป็นอาการที่ผู้เผชิญต้องปวดหัวกับมันพอสมควรเพราะการแพร่กระจายที่มักเกิดไม่พร้อมกัน และยังมีโอกาสถูกกระตุ้นให้กลับมาเป็นได้อีกโดยง่าย และประเภทสุดท้ายก็คือ สิวหัวหนองขนาดเล็กซึ่งประเภทนี้จะฝังตัวอยู่ใต้ผิวหนังของเรา ทำให้รักษายากเพราะแม้สิวจะบวมขึ้นมาเยอะแต่หัวของมันกลับอักเสบอยู่ภายใน ทำให้แม้ว่าหนองจะออกไปจนหมด แต่หัวสิวที่หยั่งรากอยู่ก็พร้อมจะเกิดภาวะอักเสบขึ้นมาใหม่ได้เสมอ
สิวหัวหนองเกิดขึ้นได้อย่างไร
สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดสิวหัวหนองนั้นยังไม่อาจทราบแน่ชัด แต่มีปัจจัยที่กระตุ้นได้จากทั้งภายนอกและภายใน ปัจจัยหลักที่พบมากที่สุดก็คือการอักเสบร่วมกับการมีเชื้อแบคทีเรียปะปนอยู่กับชั้นไขมันบนผิวของเรา นอกจากนี้ถึงแม้ว่าสิวหัวหนองที่เกิดขึ้นจะมีขนาดเล็กแต่ก็สร้างความเจ็บปวดให้กับผู้ที่เจอปัญหานี้อย่างมากเลยทีเดียว อีกทั้งการเกิดในลักษณะตุ่มผื่นกระจายทั่วบริเวณใบหน้ายอาจทำให้สาวๆ ที่ต้องแต่งหน้าเป็นประจำรำคาญใจเป็นอย่างมาก
การเกิดสิวหัวหนองระยะแรก หนองที่อยู่ภายในสิวจะเห่อออกมาแล้วแตกตัวออกไปเอง นับเป็นจุดเริ่มต้นของการอุดตันของไขมันในรูขุมขนจนอาจเกิดสิวอื่นๆ ตามมาในอนาคต เมื่อใดที่มีปัจจัยมากระตุ้น เช่น ช่วงมีประจำเดือน ความเครียด พักผ่อนน้อย หรือฮอร์โมนในร่างกายมีการเปลี่ยนแปลง สิวเหล่านี้ก็จะเริ่มกลัดหนองจนเกิดเป็นตุ่มสิวขึ้นมากวนใจเราอีกในที่สุด
เคล็ดลับรักษาและป้องกัน
หากเกิดภาวะสิวหัวหนองขึ้นกับเรา มีความจำเป็นอย่างมากที่ต้องรักษาโดยใช้ยาร่วมด้วย ซึ่งทั่วไปแล้วมักจะเป็นยาฆ่าเชื้อ ยาปฏิชีวนะ ประเภทเบนซอยด์เปอร์ออกไซด์ เรโซสินอยด์และซัลเฟอร์ ซึ่งหากผู้ใดต้องการใช้ยาเหล่านี้ในการรักษาควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะดีที่สุด เพราะยาแต่ละชนิดอาจมีผลข้างเคียงต่อร่างกายของเราได้ โดยเฉพาะช่วงแรกของการทายาอาจรู้สึกถึงอาการข้างเคียงต่างๆ เช่น แสบร้อน บวม คันผิวหนัง สำหรับใครที่ผิวแพ้ง่ายจนอาการรุนแรงขึ้นควรหยุดรักษาด้วยยาทาแล้วใช้วิธีอื่นที่ไม่ทำให้เกิดอาการแพ้
สำหรับสาวๆ คนไหนสามารถใช้ยารักษาจนอาการดีขึ้น ควรหันมาเอาใจใส่รร่างกายให้มากกว่าเดิมเพื่อป้องกันปัจจัยกระตุ้นที่อาจทำให้เกิดสิวหัวหนองได้อีกในอนาคต คือเลี่ยงการเผชิญแดดแรงที่อาจทำร้ายผิวได้ และควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF เพียงพอทุกครั้งในแต่ละวัน เรื่องการรักษาความสะอาดก็เป็นสิ่งสำคัญ ควรล้างหน้าให้สะอาดก่อนนอนทุกวัน หากแต่งหน้าหรือใช้เครื่องสำอางก็ควรใช้ผลิตภัณฑ์เช็ดล้างเครื่องสำอางโดยเฉพาะเพื่อความสะอาดที่มั่นใจได้ พยายามอย่าเผลอแกะ เกา และบีบสิวเพราะความสกปรกจากมืออาจทำให้อาการของสิวกำเริบขึ้นได้
นอกจากนี้ การออกกำลังกายและรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ก็เป็นตัวช่วยสำคัญในการทำให้ร่างกายแข็งแรง ปราศจากปัญหาสิวมากวนใจได้เช่นกันค่ะ