“เป็นหนี้บัตรเครดิต” โดยเฉพาะเมื่อเริ่มมีหนี้บัตรเครดิตแตะหลักหมื่น หลายคนอาจเกิดอาการสับสน รู้สึกผิดที่ปล่อยตัวเองให้มาถึงจุดนี้ รู้สึกอาย ไม่กล้าปรึกษาใคร เมื่อเริ่มจะจ่ายไม่ไหว ก็กลุ้มใจ กลัวเสียประวัติ อยากแก้ไข แต่ก็ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร
รวมวิธีปลดหนี้บัตรเครดิต จากบทความนี้ช่วยคุณได้
ปลดหนี้บัตรเครดิต ทำได้ง่ายๆเพียงเริ่มคิดจะลงมือแก้ไข
1. ขอบคุณตัวเองที่รู้สึกตัวตั้งแต่วันนี้ และอยากแก้ไขปัญหาหนี้บัตรเครดิต
คุณรู้ไหมว่า.. มีคนจำนวนมากที่รู้ตัวช้าจนทำให้จำนวนหนี้สูงมาก และมีอีกจำนวนมากเช่นกันที่ไม่คิดอยากแก้ไขปัญหาและปลดหนี้บัตรเครดิต คุณคือคนส่วนน้อยที่มีความรับผิดชอบกล้าหาญ และรักตัวเองมากพอที่จะไม่ปล่อยให้ปัญหาใหญ่กว่านี้
การลงมือแก้ไขปัญหา โดยเริ่มจากการจ่ายบัตรเครดิตแต่เนิ่นๆ ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการเสียประวัติเครดิตบูโร ซึ่งนั่นจะทำให้คุณสามารถไปทำธุรกรรมขอวงเงินที่จำเป็นต้องใช้สำหรับในอนาคต เช่น ซื้อบ้าน ซื้อรถ ทำธุรกิจได้
2. ไม่เสียประวัติ ถ้าจ่ายหนี้บัตรเครดิตตรงเวลาทุกเดือน
การเสียประวัติ จะเกิดขึ้นเมื่อเรา “ผิดนัดชำระหนี้” ดังนั้น ดังนั้น ต่อให้เราเพียงแค่ “จ่ายขั้นต่ำ” หนี้บัตรเครดิตแต่ถ้าจ่ายตรงเวลาทุกเดือน ก็ไม่เสียประวัติ หัวใจสำคัญของการรักษาประวัติ คือ การไม่ผิดนัด ต้องจ่ายทุกเดือน ทีนี้ปัญหาจะเกิดขึ้นเมื่อเราเกิดอาการ “จ่ายหนี้ขั้นต่ำบัตรเครดิตไม่ไหว” เช่น ยอดหนี้พุ่งไปที่ 80,000 บาท (อาจเกิดจากการก่อหนี้สะสมหลายๆ บัตรรวมกัน) ทำให้ต้องจ่ายขั้นต่ำ 10% คือ 8,000 บาท ต่อเดือน แต่เราจ่ายหนี้จำนวนเท่านี้ไม่ไหว จ่ายแล้วเราไม่เหลือเงินพอใช้จ่าย
หัวใจของการปลดหนี้บัตรเครดิตแบบไม่เสียประวัติ คือ ต้องทำให้เรา “จ่ายไหว และไม่ผิดนัด” นั่นคือต้องไปทำให้จำนวนเงินที่จ่ายหนี้ต่อเดือน.. เป็นจำนวนที่เราจ่ายไหวและจ่ายได้ทุกเดือนต่อเนื่องจนกว่าจะหมดหนี้
3. ตั้งเป้าหมายที่เป็นไปได้ หนี้หลักหมื่นแก้ไม่ยากอย่างที่คิด
จริงอยู่ว่าการปลดหนี้บัตรเครดิตหลักหมื่นนั้นดูเหมือนยาก แต่ไม่ว่าจะกี่หมื่นก็สามารถหมดได้ถ้าคุณตั้งเป้าหมายและมุ่งมั่นที่จะทำให้หมดไป ซึ่งการจ่ายหนี้บัตรเครดิตจะหมดเร็วหรือช้า ขึ้นอยู่กับความทุ่มเท ลองคำนวณง่ายๆ โดย
- รวบรวมยอดเงินต้นของหนี้บัตรเครดิตที่มีทุกใบเพื่อให้รู้ชัดเจนว่าเรามีหนี้เท่าไหร่กันแน่
- คำนวณ ทำงบประมาณรายจ่ายอื่นๆ ที่เราจำเป็นต้องใช้ในแต่ละเดือน
- รายได้ หักรายจ่ายจำเป็นแล้วเหลือเท่าไหร่ที่พอจ่ายหนี้บัตรเครดิตต่อเดือน
- เลือกตั้งเป้าหมายการปลดหนี้บัตรเครดิตให้หมดภายในกี่ปี เท่าที่เราไหว จำไว้ว่าจงเลือกจำนวนที่ไม่สูงเกินไปจนทำให้การเงินของเราตึง ไม่งั้นเกิดติดขัดขึ้นมา เราอาจต้องกลับไปเป็นหนี้บัตรเครดิตอีก
4. หาทางเลือก เลือกทางที่ใช่ ลงมือทำ
เมื่อผ่านขั้นตอนในข้อ 3 แล้ว ทีนี้เราก็มาหาทางเลือก แล้วลงมือทำกัน ถ้าหักรายจ่ายจำเป็นแล้วยังเหลือเงินพอสำหรับการจ่ายหนี้บัตรเครดิตให้หมดภายใน 10 เดือน ให้ทำดังนี้
- หยุดใช้บัตรเครดิตก่อน
- จ่ายหนี้บัตรเครดิตด้วยจำนวนเงินที่ “เท่ากันทุกเดือน” ที่มากกว่ายอดขั้นต่ำ จนกว่าจะจ่ายหนี้หมด แทนวิธีการ “จ่ายตามยอดขั้นต่ำที่ต้องชำระ” ในแต่ละเดือน เนื่องจากยอดที่ต้องจ่ายขั้นต่ำของบัตรเครดิตนั้นจะคำนวณตามยอดหนี้คงเหลือ ซึ่งเมื่อเราทยอยชำระหนี้ไปเรื่อยๆ ภาระหนี้จะลดลงส่งผลให้ยอดชำระขั้นต่ำจะลดตามไปด้วย
ตัวอย่าง เช่น หนี้บัตรเครดิต 50,000 บาท อัตราดอกเบี้ยที่ 20% ถ้าเราตกลงจ่ายชำระ “แบบคงที่” 5,000 บาทต่อเดือน (ประมาณ 10% ของยอดหนี้) แบบนี้เท่ากันไปเรื่อยๆ จะทำให้ปลดหนี้บัตรเครดิตหมดในเวลา 11 เดือน และดอกเบี้ยที่จ่ายรวมอยู่ที่ประมาณ 4,167 บาท ถ้าเราจ่ายตามจำนวนที่ต้อง “ชำระขั้นต่ำ” ตาม statement เริ่มที่ 5,000 บาทและลดลงไปเรื่อยๆ ตามยอดหนี้คงค้าง โดยเดือนที่ 27 เป็นต้นไปจ่ายที่ 500 บาททุกงวด (ตามยอดชำระหนี้ขั้นต่ำสุดที่หลายๆ ธนาคารกำหนด) เราจะใช้เวลา 37 เดือน หรือ 3 ปี กว่าหนี้จะหมด และดอกเบี้ยที่จ่ายรวมอยู่ที่ประมาณ 8,358 บาท
ถ้าหักรายจ่ายจำเป็นแล้วยังเหลือเงินพอสำหรับการจ่ายหนี้บัตรเครดิตให้หมดนานกว่า 10 เดือนคือ ต้องเป็น 1 ปีขึ้นไป มีทางเลือกในการหาเงินมาจ่ายหนี้ดังนี้
- หากมีเงินฝากที่ออมเก็บไว้ ให้กันเงินสำรองเผื่อฉุกเฉินไว้สำหรับการใช้จ่าย 3-6 เดือน แล้วส่วนที่เหลือนำปลดหนี้บัตรเครดิต
- หากมีของสะสมที่ขายต่อได้ และตัดใจได้ ก็ขายแล้วนำเงินมาจ่ายหนี้ ในอนาคตมีเงินเหลือแล้วค่อยซื้อสะสมต่อ
- เปิดใจคุยกับครอบครัวถึงปัญหาการปลดหนี้บัตรเครดิต หากครอบครัวมีเงินช่วยสนับสนุนหรือให้ยืมก็นำมาแบ่งเบาภาระตรงนี้แล้วตกลงเรื่องของการจ่ายคืนกันให้เรียบร้อย
- จำให้ขึ้นใจว่าเรากำลังพยายามแก้หนี้อย่างไม่เสียประวัติ ดังนั้น เราต้องทำให้ยอดหนี้ที่ต้องผ่อนจ่ายต่อเดือนลดลง จนถึงจุดที่เราจ่ายหนี้ไหวทุกเดือนอย่างต่อเนื่อง หากจำเป็นต้องจ่ายดอกเบี้ยโดยรวมมากขึ้นก็ควรยอมรับผลของมันบ้าง เพราะเรากำลังต้องการแก้ปัญหาหนี้บัตรเครดิตแบบไม่เสียประวัติ อย่าเป็นคนที่ไม่ยอมเสียอะไรเลยแถมแก้ปัญหาก็ไม่ได้
5. สร้างวินัยทางการเงิน รักษากำลังใจ ตลอดเส้นทางการจ่ายหนี้บัตรเครดิต
- เรียนรู้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าพฤติกรรมการใช้เงินแบบไหนที่เราจะไม่ทำอีก โดยไม่กล่าวโทษซ้ำเติมตัวเอง แต่เรียนรู้เพื่อเดินหน้าต่อ ใช้ชีวิตให้ดีขึ้น
- รักษาเครดิต จ่ายหนี้ต่อเนื่องทุกเดือน
- ทำงบประมาณ จดรายจ่าย คอยดูแลจัดการเรื่องเงินของตัวเอง
- ไม่ซื้อสิ่งที่ไม่จำเป็น รอคอยเป็น
- หารายได้เพิ่มเมื่อมีโอกาส พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ เมื่อมีรายได้เพิ่ม ก็มีโอกาสที่เราจะไปปลดหนี้บัตรเครดิตให้หมดเร็วขึ้นได้
สำหรับคนที่ตั้งใจแก้ปัญหา สร้างวินัยให้ตัวเองได้ การมีบัตรเครดิตไว้มีข้อดี คือ
- ได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมจากการใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็นส่วนลด หรือการสะสมคะแนนเพื่อแลกของรางวัล สมัครบัตรเครดิต KTC คลิก
ส่วนการมีบัตรกดเงินสดไว้.. มีข้อดีดังนี้
- มีวงเงินสำรองเผื่อฉุกเฉินจำเป็น โดยเฉพาะคนที่เงินเก็บยังน้อยอยู่
- มีวงเงินเพื่อใช้หมุนเวียนชั่วคราวในการค้าขายหรือทำธุรกิจ แบบที่ไม่ต้องไปยืมคนใกล้ตัวให้ลำบากใจ
ผ่อนทุกภาระหนักของคุณ ให้เบา ด้วยดอกเบี้ยเบาๆ เพียง 0.93%* ช่วยให้ทุกโอกาสเป็นจริงได้ กับ บัตรกดเงินสด KTC PROUD รับเงินก้อน ผ่อนเป็นงวด วงเงินสูง อนุมัติไวผ่อนได้นานสูงสุด 12 – 36 งวด
ใหม่ “รูดได้ ใช้แทนเงินสด หรือจ่ายค่าบริการต่างๆ”
*หมายเหตุ : ดอกเบี้ยอัตราพิเศษ 0.93% ต่อเดือน สำหรับยอดเงินโอนก้อนแรกแบบผ่อนชำระรายงวดตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป
ที่มา https://krungthai.com/