6 เคล็ดลับพิชิตความอ้วน

“ตอนผมอ้วน ผมใช้ชีวิตในสังคมได้ค่อนข้างลำบาก รู้สึกเหมือนเป็นตัวประหลาดของสังคม เพราะเราตัวใหญ่เกินไป ขึ้นรถโดยสารก็จะไปเบียดที่นั่งคนข้างๆ เวลาโบกรถ รถส่วนใหญ่ก็จะไม่รับ เดินขึ้นสะพานลอยไม่กี่ขั้นจะรู้สึกเหนื่อยหอบมาก…”

/data/content/25233/cms/e_acdfhoprw456.jpg

เสียงบอกเล่าจาก นัท ชนะกุล แย้มบุปผา หนึ่งในผู้เข้าร่วมรายการเต้นเปลี่ยนชีวิต ที่เคยมีน้ำหนักตัวสูงถึง 130 กิโลกรัม จากพฤติกรรมที่ชอบกินอาหารขยะทุกวันหลังเลิกเรียน ไม่ว่าจะเป็นไก่ทอด มันฝรั่งทอด (เฟรนซ์ฟราย) หรือพิซซ่า ส่งผลให้เขามีน้ำหนักตัวหลักร้อยกิโลกรัม ประกอบกับน้ำอัดลม ส่งผลให้เขาถูกหามส่งโรงพยาบาลด้วยโรค “ไขมันพอกตับ” แถมด้วยคอเลสเตอรอลและไขมันในเลือดสูง อันเป็นเหตุมาจากความ “อ้วน” ซึ่งเป็นหนึ่งในโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ที่คนไทยกำลังเผชิญอยู่เป็นจำนวนมาก

นัทเล่าให้ฟังว่าในช่วงที่อ้วนและรู้สึกว่าตัวเองเหมือนตัวประหลาดนั้นก็ ได้แต่เก็บตัวเงียบในบ้าน แต่นั่นกลับทำให้ร่างกายเขาแย่ลงอีก “ผมเก็บ ตัวเงียบในบ้านไม่ได้ออกไปไหน ไม่ได้เจอผู้คนหรือออกกำลังกาย ได้แต่นั่งทำวิทยานิพนธ์ และยิ่งทำให้กินตลอดเวลา ไม่เกิดการเคลื่อนไหวร่างกายจนป่วย” ด้วยอาการป่วยดังกล่าวจึงเป็นจุด เริ่มต้นให้ชายหนุ่มผู้มีน้ำหนักตัวมากตัดสินใจเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมตัวเอง จากที่เคยเก็บตัวหลบหนีสังคมก็เริ่มหันมาออกกำลังกาย และลด ละ เลิก อาหารประเภททอด ปิ้ง ย่าง รวมถึงน้ำอัดลมโดยสิ้นเชิง

/data/content/25233/cms/e_ilnoqrsvz678.jpg “ผมเริ่มลดน้ำหนักหลังจากออกจากโรงพยาบาล โดยมีการจำกัดแคลอรี่ของอาหารที่กินในแต่ละวัน ผมหักดิบตัวเอง โดยกินน้อยมากวันละประมาณ 500 กิโลแคลอรี่ และทำให้ผมวูบ ร่างกายรับไม่ไหว ” นัทบอกถึงวิธีการลดน้ำหนักแบบไม่ถูกต้องในระยะแรก

หลังจากที่นัทมีโอกาสเข้าร่วมรายการเต้นเปลี่ยนชีวิต ก็สามารถปรับเรื่องการกินได้เหมาะสม โดยการกินอาหารครบทั้ง 3 มื้อ และครบทั้ง 5 หมู่ เน้นไปที่การกินโปรตีน และผักผลไม้ รวมไปถึงการลด ละ เลิก อาหารหวาน มัน เค็ม เนื่องจากร่างกายต้องใช้พลังงานมากในการซ้อมเต้นและออกกำลังกายในแต่ละวัน

สิ่งที่จำเป็นต้องมีในการลดน้ำหนักคือ

  1. ความตั้งใจเป็น เรื่องสำคัญมากสำหรับคนจะลดน้ำหนัก อาจจะต้องต่อสู้กับใจของตัวเองมากๆ แต่เชื่อว่าถ้ามีความตั้งใจเป็นที่มั่นแล้ว ก็สามารถพิชิตความอ้วนได้
  2. หาแรงบันดาลใจ จะต้องเป็นแรงบันดาลใจที่ชัดพอ เมื่อเรารู้สึกท้อในการลดน้ำหนัก แรงบันดาลใจนั้นต้องทำให้เราลุกขึ้นสู้ต่อได้
  3. มีคนบันดาลใจ (Idol) เป็นแบบอย่างในรูปร่างที่เราอยากได้ อยากเป็น เพื่อให้เราได้ไปถึงเป้าหมายในการออกกำลังกาย
  4. ตั้งเป้าหมาย ควรจะเป็นทั้งเป้าหมายระยะสั้น และเป้าหมายระยะยาว โดยเน้นไปที่การลดสัดส่วน ไม่ใช่การลดน้ำหนัก
  5. มีวินัย ทั้งใน เรื่องการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ โดยการออกกำลังกายทั้ง 3 รูปแบบคือ การคาร์ดิโอ การใช้แรงต้าน และการยืดเหยียด รวมถึงการเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์กับร่างกายให้ครบทั้ง 3 มื้อและครบทั้ง 5 หมู่
  6. ให้รางวัลตัวเอง เมื่อทำได้ตามเป้าหมายที่เราวางไว้ก็ควรให้รางวัลตัวเองเพื่อเสริมสร้างกำลังใจที่ดีกับตัวเอง

6 ข้อ เคล็ดลับง่ายๆของ “นัท” ชายหนุ่มผู้ต่อสู้กับการลดน้ำหนักได้เกือบ 50 กิโลกรัม สำหรับ ชีวิตหลังการลดน้ำหนักได้แล้ว นัทบอกว่า ชีวิตดีขึ้นมาก โรคไขมันพอกตับ คอเลสเตอรอลและไขมันในเลือด ที่เคยเป็นก็หาย สุขภาพแข็งแรง และมีความสุขกับการกินอาหารแบบคลีน และมีวินัยในการออกกำลังกายทุกวัน…

 

 

เรื่องโดย อาภาวรรณ โสภณธรรมรักษ์ Team Content www.thaihealth.or.th

ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต

http://www.thaihealth.or.th/Content/25233-620E0B980E0B884E0B8A5E0B987E0B894E0B8A5E0B8B1E0B89AE0B89EE0B8B4E0B88AE0B8B4E0B895E0B884E0B8A7E0B8B2E0B8A1E0B8ADE0B989E0B8A7E0B899html