สัตว์กับเด็กๆ นั้นเป็นของคู่กัน ไม่ว่าจะเป็นหมา แมว กระต่าย เพราะดูๆไปก็น่ารักดี ทั้งนี้ บางบ้านอาจจะเกรงว่าเลี้ยงสัตว์ควบคู่กันแล้วลูกจะป่วยไหม จะปลอดภัยหรือเปล่า วันนี้เราจึง 5 ข้อที่ควรพิจารณามาฝากกัน แต่ก่อนอื่น มาดูข้อดีกันก่อนเลยค่ะ
ข้อดีที่ลูกได้ใกล้ชิดกับสัตว์เลี้ยง
- ลูกได้เรียนรู้ลักษณะ การกิน การเป็นอยู่ การดูแลสัตว์
- ลูกเรียนรู้ว่า สัตว์ก็เจ็บป่วยได้ไม่ต่างจากเรา และถ้าไม่สบายมากๆ คุณพ่อคุณแม่ก็ต้องพาไปหาหมอ เราจึงไม่ควรแกล้งเขา
- ถ้าคุณพ่อ คุณแม่ให้ลูกช่วยให้อาหาร ก็จะช่วยฝึกวินัยให้ลูกได้อีกทางหนึ่ง
- การที่ลูกได้ลูบหัว เกาคอ กอด อุ้ม ใกล้ชิด จะทำให้ลูกมีความรู้สึกรักสัตว์ จิตใจอ่อนโยน และมีเมตตา
ก่อนเลี้ยงสัตว์ต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง
หากคุณเป็นบ้านที่เลี้ยงหมา หรือแมวอยู่ก่อนแล้ว ก็คงไม่ต้องพิจารณาอะไรมาก แต่หากคุณมีลูกก่อน ที่จะนำสัตว์เข้าบ้าน ควรพิจารณาใน 5 เรื่องดังต่อไปนี้
- พิจารณาความพร้อมของตัวเอง
- สิ่งที่สำคัญคือ ถามใจตัวเองก่อนเลย ว่าเป็นคนใจเย็น และรักสัตว์หรือไม่ หากเป็นคนโมโหร้าย ชอบทุบตี คงไม่ดีแน่ที่จะเอาสัตว์มาไว้ระบายอารมณ์
- มีโรคประจำตัวไหม เช่น หอบ หืด ภูมิแพ้
- สถานที่ๆเราอยู่เป็นอย่างไร ถ้าเป็นบ้าน หรือทาวเฮ้าส์ อาจจะไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นหอพัก อพาร์ทเมนต์ คอนโดมิเนียม เขาให้เลี้ยงสัตว์ได้หรือเปล่า
- ควรมีความรู้ในการเลี้ยงสัตว์ชนิดนั้นๆ บ้าง สมมติว่าเป็น แมว
- เมื่อรับลูกแมวมาใหม่ๆ ควรพาไปฉีดวัคซีน ถ่ายพยาธิ ทำหมันเมื่อถึงเวลา และพาสัตว์ไปหาหมอ ยามที่มันเจ็บป่วย
- เลี้ยงด้วยนมแพะ หรือนมสำหรับแมวโดยเฉพาะ ไม่ควรให้ทานนมวัว เพราะจะทำให้ท้องเสีย
- หากแมวป่วย ห้ามให้กินยาพาราเซตามอล เพราะจะทำให้เกิดความผิดปกติในระบบเลือด เมื่อทานเข้าไปแล้ว แมวจะมีอาการหอบ หน้าบวมเห่อ หากรักษาไม่ทันจะทำให้เสียชีวิตได้ภายใน 24-48 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีอาหารบางชนิด ที่ไม่ควรให้แมวทาน แม้อาจจะดูเป็นเรื่องจุกจิกนิดหน่อย แต่ถ้าเรารักเขา ก็ควรใส่ต่อชีวิตน้อยๆ ของเขาด้วยนะคะ
- การแบ่งเวลา
- เวลาเราไม่อยู่บ้าน ใครเป็นคนดูแล แล้วถ้าเราต้องไปเที่ยวทั้งครอบครัวล่ะ สัตว์เลี้ยงจะอยู่กับใคร อาจจะเอาไปฝากไว้ที่คลีนิคหรือสถานที่รับฝากสัตว์เลี้ยงก็อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีวิธีหนึ่ง
- การแบ่งพื้นที่
- การแบ่งพื้นที่ให้สัตว์เลี้ยงเป็นสัดเป็นส่วน นอกจากจะช่วยให้ดูแลง่ายแล้ว หากเป็นลูกเล็ก
เขาอาจยังไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร หากไปแหย่ หรือรบกวนสัตว์โดยที่เขาไม่ได้ตั้งใจ อาจจะถูกกัดหรือถูกข่วนกลับมา ดังนั้น ควรจัดกรง หรือพื้นที่ของสัตว์เลี้ยงให้เรียบร้อย
- การดูแลทำความสะอาด เช่น อาบน้ำ ตัดเล็บ ตัดขน อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยลดความเสี่ยงเรื่อง
เห็บ หมัด ไร เข้าหู จมูกและปากของลูกได้
- สอนลูกให้มีความรักสัตว์
โดยการอ่านนิทาน หรือหนังสือที่เกี่ยวกับสัตว์ เล่นเกมจับคู่ภาพสัตว์ หุ่นนิ้ว หุ่นมือ เล่นบทบาท
สมมุติ ให้ลูกเขียนเล่าเรื่องราวเรื่องสัตว์เลี้ยงในบ้าน ก็จะช่วยให้ลูกสนใจเรื่องสิ่งแวดล้อมรอบตัวเรื่องสัตว์มากยิ่งขึ้น
นอกจาก 5 ข้อที่กล่าวมาแล้ว หากเราเลี้ยงสัตว์ในช่วงกำลังท้อง หรือมีลูกเล็ก ก็ควรแนะนำให้ลูก
รู้ว่าไม่ควรเข้าใกล้ หรือเอามือไปแหย่ เพราะอาจจะทำให้เขาหงุดหงิดหรือหวงลูกและหันมาทำร้ายเราได้ เพียงเท่านี้เราก็จะอยู่ด้วยกันด้วยความรักและมิตรภาพที่ดีแล้วล่ะค่ะ