How to การเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ในบ้าน

ช่วงต้นปีถือว่าเป็นฤกษ์ดีของหลายคนที่เริ่มทยอยย้ายของใหม่เข้าบ้านเดี่ยว หรือซื้อบ้านใหม่ คอนโดใหม่ ก็จะต้องมีการซื้อเฟอร์นิเจอร์เข้าบ้านกันก่อนเป็นอันดับรองลงมาหลังจากตกลงทำสัญญาและตรวจรับเรียบร้อยแล้ว สำหรับเฟอร์นิเจอร์นั้นเป็นสิ่งของเครื่องใช้ที่จะอยู่กับเราไปอีกนาน เราเลยต้องเลือกกันให้ดีที่สุด และคุ้มค่ากับเงินที่เราเสียไปด้วย เราจึงจะมาดูกันว่า การเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ในบ้านนั้น มีวิธีอย่างไรที่จะทำให้เราได้ของดีมาใช้

How to การเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ในบ้าน

สำรวจช่วงของกำลังลดราคา : หากเราสังเกตตามห้างสรรพสินค้าในโซนที่ขายของใช้ในบ้าน หรือเฟอร์นิเจอร์หลายๆอย่าง กระทั่งตามร้านขายเฟอร์นิเจอร์หลายๆแห่งนั้นจะมีช่วงที่เริ่มลดราคาของ Grand Sale เราน่าจะลองมาสำรวจราคากันในช่วงนี้กันด้วย แต่กระนั้นแล้ว จุดสำคัญก็คือ แต่ละแห่งนั้นจะมีช่วงเวลาของการลดราคาต่างกัน บางแห่งก็ 2 ครั้งต่อปี จึงทำให้เราต้องรีบมาสำรวจราคา เพราะถ้าหากคิดจะซื้อของใหญ่เช่นเตียง ตู้ โซฟา ชั้นวางของ ชั้นหนังสือ จะเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่มีมูลค่าสูง ต้องแม่นในการเก็บเงินและเก็งราคาตอนลดด้วย

เฟอร์นิเจอร์ประเภท Builtin : ตอนนี้เฟอร์นิเจอร์แบบ Builtin กำลังนิยมซื้อมาใช้งานในคอนโดชั้นนำหลายแห่งด้วยกัน มันมีข้อดีคือ สามารถประหยัดพื้นที่ภายในห้องหรือบ้านได้ แต่ก็มีข้อเสียอยู่เช่นกันคือ ราคาจะแพงกว่าเฟอร์นิเจอร์ทั่วไป และยังซ่อมบำรุงยาก แก้ไขตอนเสียหายยาก เพราะถ้าหากมีส่วนไหนที่แตกหักนั้น ก็อาจจะต้องแกะออกมาซ่อมแซมทั้งหมดทุกส่วน ทำให้เสียเวลาต่อการต้องมาซ่อมแซมพื้นหรือผนังในภายหลังอีกด้วย

สำรวจสไตล์ความชอบส่วนตัวของตัวเอง : เนื่องจากความชอบในการแต่งบ้านหรือซื้อเฟอร์นิเจอร์ของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน การแต่งบ้านหรือซื้อเฟอร์นิเจอร์ก็ควรจะซื้อให้ตรงกับคอนเซ็ปต์ของบ้าน ดีไซน์ เช่นเป็นบ้านทรง Modern ก็ควรจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ยุคใหม่ Modern ไม่ใช่เอารุ่น Vintage ย้อนยุคมาใช้นั่นเอง ถ้าเป็นเช่นนั้นจะทำให้ดูขัดๆกับลักษณะของบ้านของเราไปด้วย จุดนี้ต้องระวังให้ดี

การคำนวณงบประมาณ : เราสามารถคำนวณงบประมาณในการซื้อเฟอร์นิเจอร์ได้เช่น ถ้าหากว่าเป็นห้องรับแขก จะต้องมีโซฟา เก้าอี้นั่ง ชั้นวางของโชว์ ก็ควรจะเลือกที่แข็งแรง ใช้งานได้นานจากรุ่นสู่รุ่นได้ ลงทุนครั้งเดียวอยู่หมัด ห้องนอนก็มีเตียงนอนใหญ่ 1 หลัง โต๊ะเครื่องแป้ง ตู้เสื้อผ้า ชั้นวางทีวี ชั้นหนังสือก็ให้เป็นของดี ทนทานใช้นานได้เกิน 10 ปีไปเลย ลงทุนครั้งเดียว ส่วนของในห้องเด็กเล็ก ไม่นานเด็กๆก็ต้องโต ไม่ต้องใช้เงินในส่วนนี้มากก็ได้

บทความจาก บ้านรังสิต