IQ คืออะไร และหมายความว่าอย่างไร ที่นี่มีคำตอบ

เชื่อว่าหลายคนคงจะเคยได้ยินคำนี้กันมาก่อนแน่นอน IQ โดยเฉพาะในสมัยเด็ก เรามักจะได้ยินคำนี้กันค่อนข้างบ่อย  เนื่องจากพวกผู้ใหญ่หลายคนมักจะเอามาเปรียบเทียบ ด้วยคำว่า IQ กับความฉลาดของเรา เช่น เด็กคนนี้จะต้องมี IQ สูงแน่ เพราะว่ามีความฉลาด แต่แท้ที่จริงคำนี้มีความหมายว่าอย่างไร วันนี้เราจะมาดูไปพร้อมกัน

ตัววัด IQ คืออะไร

ตัววัดนี้เริ่มมาจากการที่ LM Terman เป็นผู้ที่คิดค้นตัววัดเป็นคำนี้ขึ้นมา ในปี 1916 ชื่อเต็มของตัววัดคือ Intelligence Quotient หรือ IQ โดยหมายถึง ความฉลาดทางด้านปัญญาของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ซึ่งประกอบไปด้วยหลากหลายปัจจัย เช่น เรื่องการคิด การจดจำ การวางแผน การใช้เหตุผล ตรรกะสำคัญ การคำนวณที่หลากหลาย และยังเป็นการเชื่อมโยงถึงศักยภาพทางสมอง ที่ช่วยในเรื่องของความคิดความอ่านทั้งหมด ซึ่งตัววัดนี้จะเป็นการบ่งบอกถึงลักษณะเฉพาะของแต่ละตัวบุคคล ซึ่งเป็นระดับทักษะติดตัวมาตั้งแต่เกิด เป็นสิ่งที่ถูกกำหนดจากพันธุกรรม และมีโอกาสเปลี่ยนแปลง อย่างเช่น การเพิ่มขึ้น หรือลดลงได้ยากนั่นเอง

ประเภทของการวัดค่า IQ

การวัดค่าความฉลาดนี้ สามารถแบ่งการวัดออกมาได้ 3 ประเภท เช่น

  1. Verbal IQ คือ การวัดความฉลาดในด้านภาษา
  2. Performance IQ คือ การวัดความฉลาดในด้านการลงมือปฏิบัติ
  3. Full IQ คือ การวัดความฉลาดแบบมวลรวม

การวัดค่า IQ ที่แน่นอน ต้องการองค์ประกอบหลายอย่าง ในการทดสอบความรู้พื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของหลักการคิดในคณิตศาสตร์ การใช้ภาษา การมองเห็น ความจำ การจัดหมวดหมู่ รวมถึงการคิดเชิงตรรกะ และความรวดเร็วในการประมวลผลระบบความคิด แต่ในปัจจุบันนี้มีเว็บไซต์ รวมถึงแอพพลิเคชั่นมากมาย ที่เราสามารถเข้าไปทดสอบ IQ ได้เอง ซึ่งเป็นการประมวลผล และวัดระดับขั้นต้นให้เราพอทราบว่าตัวเองมี IQ อยู่ที่เท่าไหร่

5 เว็บไซต์ที่ผู้คนนิยมให้ทดสอบระดับ IQ

สำหรับใครที่อยากเข้ามาลองทดสอบ IQ ของตัวเอง เรามี 5 เว็บไซต์ยอดนิยม ซึ่งคุณสามารถเข้ามาทำการทดสอบได้ไม่ยาก เพราะสามารถทำตามขั้นตอนได้ง่ายมาก และใช้เวลาไม่นาน ที่สำคัญผลลัพธ์ที่ได้ออกมา ค่อนข้างตรงตามมาตรฐานในจากการคำนวณที่สูงมาก อีกทั้งยังได้รับการรับรองอีกด้วย

  1. เว็บไซต์ TestIQ.dk

รูปแบบการทดสอบที่จะมุ่งเน้นไปในส่วนของความจำ และตรรกะ มีแบบสอบถามที่คุณจะต้องตอบทั้งหมด 39 ข้อ โดยให้เวลาทั้งหมด 40 นาที นี่คือเว็บไซต์ที่มีชื่อเสียง และได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากมีผู้ที่เข้ามาทดสอบ IQ กับเว็บไซต์นี้มากกว่า 6 ล้านคน แบบทดสอบทั้งหมดที่ทำออกมา มีมาตรฐานระดับสากล พร้อมทั้งยังมีใบรับรองการทดสอบ IQ ทำให้มั่นใจได้เลยว่า คุณจะสามารถวัดค่าขั้นต้นได้อย่างแม่นยำ

2.เว็บไซต์ Psychtests

คุณอาจจะต้องเสียเวลาการทดสอบ IQ สำหรับเว็บไซต์นี้มากกว่าเว็บไซต์อื่น ๆ สักหน่อย เพราะว่ามีแบบทดสอบที่ละเอียดมากถึง 57 ข้อ โดยให้ระยะเวลาในการทำเพียง 30 นาทีเท่านั้น ภายในเว็บไซต์นี้จะมีรายละเอียดการทดสอบหลากหลาย เช่น การใช้เหตุและผลในเชิงตรรกะ การหาความสัมพันธ์เชิงพื้นที่ ไปจนถึงหลักทางคณิตศาสตร์ รวมถึงการทดสอบในด้านภาษา เป็นต้น

  1. เว็บไซต์ 123 Test

ถ้าใครที่ไม่อยากเสียเวลามาก เว็บนี้คือคำตอบ เพราะจะมีแบบทดสอบให้เราได้ทำการวัดระดับเพียงแค่ 10 ข้อเท่านั้น แต่จะมาในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป มากถึง 10 รูปแบบ เช่น แบบทดสอบเป็นกลุ่ม แบบรายบุคคล การทำแบบทดสอบด้านบุคลิกภาพ การทดสอบไอคิวพื้นฐานที่ควรมี และในส่วนของการทดสอบการใช้ตรรกะเชิงเหตุผล เป็นต้น

  1. เว็บไซต์ International IQ Test

สำหรับใครที่ไม่ค่อยเก่งเรื่องภาษา เว็บนี้คือคำตอบของคุณ เพราะว่าแบบสอบถามทั้งหมดจะเป็นภาษาไทย มีให้คุณได้ทำการทดสอบถึง 40 คำถาม มีความหลากหลายทั้งในเรื่องของระบบการเรียนรู้ ความเข้าใจในรูปแบบ ทั้งในส่วนของแนวคิดต่าง ๆ การประมวลผลข้อมูลตามหลักการ และการใช้เหตุผลเบื้องต้น อย่างครบถ้วน

  1. เว็บไซต์ Funeducation

เว็บไซต์นี้มีรายละเอียดการทำแบบสอบถามค่อนข้างเยอะ โดยเว็บจะมีคำถามให้เหล่าผู้ทดสอบทั้งหมด 43 ข้อ และไม่จำกัดเวลาในการทดสอบ แบ่งแยกแบบทดสอบเป็นหมวดหมู่ เช่น การคิดวิเคราะห์วจำพวกคำ ทดสอบทักษะสำคัญเกี่ยวกับข้อมูล และตัวเลข เมื่อคุณทำแบบทดสอบแล้ว จะไม่สามารถย้อนกลับไปเพื่อแก้ไข แบบทดสอบก่อนหน้านี้ เพื่อเปลี่ยนคำตอบใหม่ได้

เมื่อทำแบบทดสอบเสร็จคุณสามารถตรวจสอบได้ว่า คำตอบข้อใดผิด และยังสามารถบันทึกผลลัพธ์ของคุณได้ จากการสร้างบัญชีเพื่อขอตรวจสอบข้อมูล นอกจากนี้ยังมีรูปแบบการทดสอบ ที่มีรายละเอียดลึกมากยิ่งขึ้น แต่อาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม สามารถตรวจสอบได้จากหน้าเว็บไซต์

ระดับเกณฑ์ในการวัด IQ

หลังจากที่คุณทำแบบทดสอบเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จะมีคะแนนการวัดผล IQ ของคุณออกมาให้ได้ทราบ ซึ่งจะแบ่งแยกตามเกณฑ์ของการมีทักษะด้านนี้ มากน้อยต่างกัน โดยเราจะแบ่งแยกตามระดับคะแนน ตามด้านล่างนี้

  • คะแนน 144 เป็นต้นไป คือ การบ่งบอกว่า ผู้ทดสอบอยู่ในขั้นอัจฉริยะ สามารถหาได้ยาก
  • คะแนน 130 – 144 คือ ผู้เข้ารับการทดสอบมีปัญญาเป็นเลิศ
  • คะแนน 115 – 129 คือ ผู้ที่มีทักษะความรู้ในด้านนี้ในระดับที่ดีเยี่ยม สูงกว่าผู้คนทั่วไป
  • คะแนน 100 – 114 คือ ผู้ที่มีทักษะในด้านนี้ในระดับดี
  • คะแนน 85 – 99 คือ ผู้ที่มีระดับความสามารถในด้านนี้ค่อนข้างต่ำกว่าเกณฑ์
  • คะแนน 70 – 84 คือ ผู้ที่มีทักษะในด้านนี้ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่พึงมี ควรพัฒนา
  • คะแนน 55 – 69 คือ ผู้ที่มีข้อบกพร่องทักษะในด้านนี้ แต่มีความสามารถมากกว่าผ็ที่อยู่ในเกณฑ์ต่ำสุด
  • คะแนนน้อยกว่า 55 ลงไป คือ ผู้ที่มีทักษะด้านการคิด ควสามฉลาดด้านนี้ต่ำ อาจอยู่ในกลุ่มของผู้ที่มีปัญหาด้านสติ ปัญญา

สำหรับคนส่วนใหญ่ด้วยการทดสอบจากจำนวนคน 100 คน ค่าเฉลี่ยของ IQ จะอยู่ที่ประมาณ 84 ถึง 114 คะแนน และยังบุคคลอีกประเภทที่เรียกว่า อัจฉริยะไอคิว ซึ่งพวกเขาจะมีทักษะในด้านสติปัญญา ที่สูงมากกว่า 160 ขึ้น ได้แก่ Albert Einstein , Mark Zuckerberg , Nikola Tesla , Bill Gates เป็นต้น

สัญญาณ 5 ประการที่แสดงถึงการมี IQ สูง

เชื่อคุณพ่อคุณแม่ทุกท่านจะต้องอยากรู้กันอย่างแน่นอน ว่าลูกของตนเองมีระดับความรู้ ความสามารถทักษะในด้านนี้ที่เท่าไหร่ เนื่องจกาว่า เมื่อทราบเร็ว หรืออยู่ในวัยที่กำลังพัฒนา เหล่าผู้ปกครองจะสามารถช่วยพัฒนา และดูแลในเรื่องพัฒนาการได้อย่างถูกต้อง และสัญญาณที่แสดงถึงการที่เด็ก มีแววว่าจะมีไอคิวสูงนั้น มีอะไรที่จะบอกเราได้บอกนะ เราสามารถสังเกตได้ง่ายๆ โดนดูจากหารแสดงออกผ่านทางพฤติกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน

  1. ความจำเป็นเลิศ

ความจำของเด็กแต่ละคนแตกต่างกันออกไป เราสามารถสังเกตได้ง่าย ๆ จากการจดจำรายละเอียดรอบตัวของเด็ก  เช่น การบอก การสอน การจำชื่อเล่น หรือ พฤติกรรมจากการเล่นของเล่น ที่เป็นแนวสร้างเสริมพัฒนาการ

เด็กที่สามารถจดจำเรื่องราว สัญลักษณ์ สิ่งของ หรือการสอนได้ดี จะมีความสามารถที่เด่นชัดกว่าเด็กทั่วไป ซึ่งจะแสดงผลออกมาให้เห็นมากขึ้น จากการใช้ชีวิตประจำวัน และเด็กมีพัฒนาการในด้านนี้ที่รวดเร็ว

  1. เด็กมีความสนใจสิ่งรอบตัว

คำกล่าวติดปากของเหล่าผู้ใหญ่ว่า เด็กซนคือเด็กฉลาด คำนี้ไม่ได้มีแค่เพียงเอาไว้ปลอบใจบรรดาพ่อแม่ เวลาลูกของคุณซนจนน่าปวดหัว แต่ในความเป็นจริงแล้ว สามารถอ้างอิงจากงานวิจัย Harvard Business Review ที่ได้ระบุผลลัพธ์ออกมาว่า ความอยากรู้อยากเห็นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก สำหรับพัฒนาการความฉลาดในด้านสติปัญญา โดยเฉพาะในเด็กเล็ก เพราะว่าการที่เด็กมีความสนใจในสิ่งรอบตัว ส่งผลตอบรับอย่างชัดเจนเกี่ยวกับการแสวงหาความรู้ และการเรียนรู้ตลอดเวลา ทำให้เป็นการเพิ่มสติปัญญา และมีพัฒนาการทางด้านการคิด วิเคราะห์ได้เรื่อย ๆ

โดยการที่เด็กมีความสนใจสิ่งรอบตัว ที่มีแนวโน้มในเรื่องระดับ IQ เราสามารถสังเกตพฤติกรรมของตัวเด็ก ได้ เช่น ในเรื่องของการตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับสิ่งรอบตัว การซักถาม ความอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับทุกสิ่ง เพราะฉะนั้นผู้ที่เป็นคุณพ่อคุณแม่ก็ต้องเปิดโอกาสให้ลูกได้สอบถาม และช่วยในเรื่องการให้ข้อมูล การหาข้อมูล ควรพยายามที่จะตอบคำถามของเด็กอย่างสม่ำเสมอ สิ่งนี้จะช่วยพัฒนาศักยภาพได้เป็นอย่างมาก แต่ในบางครั้งก็น่าเสียดายมากที่มีคุณพ่อคุณแม่บางคนไม่ได้ใส่ใจที่จะตอบคำถามเหล่านี้ แต่กลับยื่นโทรศัพท์ให้ลูกเพื่อตัดความรำคาญ

  1. เด็กมีความคิดสร้างสรรค์ในการแก้ปัญหา

การพัฒนาทางด้านจินตนาการ ก็เป็นส่วนหนึ่งสำคัญที่บ่งบอกความสามารถด้านนี้ของตัวเด็ก ในบางครั้งเด็กบางคนมักมีความมุ่งมั่น และความพยายามในการทำบางสิ่งบางอย่าง โดยไม่ยอมแพ้ ยกตัวอย่างเช่น เวลาเด็กต้องการจะหยิบของ จากที่สูง หรือจากบนชั้นหนังสือที่สูงเกินกว่าตัว เด็กบางคนอาจจะทำใจยอมแพ้ และหมดความสนใจ เลือกให้ความสนใจกับสิ่งอื่นแทน หรือบางคนอาจจะให้คุณพ่อคุณแม่เป็นผู้ช่วยเหลือ แต่สำหรับเด็กที่มีความคิดสร้างสรรค์ มีพัฒนาการแตกต่างออกไป พวกเขาจะคิดหาวิธีปีนขึ้นไปบนที่สูง ไม่ว่าจะวิธีการใด แต่เขาจะพยายามทำ เพื่อหยิบของที่ตนเองต้องการ

  1. เด็กมีความชื่นชอบด้านดนตรีและทำออกมาได้ดี

ดนตรีคือสิ่งที่วิเศษมากสำหรับพัฒนาการของเด็ก มีคุณแม่หลายคนมักจะเปิดเพลงของ โมสาร์ท (Mozart) ให้ลูกน้อยฟังตั้งแต่ตั้งท้อง และเคยมีคำกล่าวที่เคยกล่าวไว้ว่า ดนตรีเป็นสิ่งที่เชื่อมโยงระหว่างโลกกับสรวงสวรรค์ แต่กล่าวได้เลยว่า คำกล่าวนี้ดูจะไม่มากเกินความจริงไป เพราะว่าดนตรีสามารถกระตุ้นการพัฒนา ความฉลาดทางด้านสติปัญญา รวมไปถึงทำให้เกิดทักษะการเรียนรู้ กระบวนการทางความคิดสร้างสรรค์ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้สำหรับเด็กที่เล่นดนตรีอย่างสม่ำเสมอพวกเขาจะเกิดสมาธิ มีจิตใจที่นิ่งสงบ และสามารถสร้างสรรค์จินตนาการออกมาได้อย่างมากมาย

เด็กที่ชื่นชอบในการเล่นดนตรี หรือมีความสามารถทางด้านนี้ พวกเขามีแนวโน้มอย่างมาก ที่จะมีพัฒนาการทางด้านความฉลาดของสติปัญญา ทำให้ระดับไอคิวของพวกเขาพัฒนาสูงเพิ่มมากขึ้น

  1. เด็กมีสมาธิอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้นาน

โดยส่วนมากแล้วเด็กเล็กจะไม่สามารถจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้ มากกว่า 10 – 15 นาที แต่ว่าถ้ามีเด็กคนใดที่มีสมาธิในการเล่น การทำกิจกรรม การคิด หรือสามารถทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ตามลำพังได้เป็นเวลานาน นี่ถือเป็นสัญญาณที่ดีว่า ลูกของคุณมีสมาธิดี มีแนวโน้มที่จะอยู่ในระดับที่มีไอคิวสูงนั่นเอง

จากข้อมูลรายละเอียดทั้งหมดที่ได้กล่าวไปข้างต้น ทุกท่านคงทราบแล้วว่า IQ คืออะไร และหมายความว่าอย่างไร พร้อมทั้งเหล่าผู้ปกครองยังสามารถนำเอาเทคนิค การสังเกตุ ไปใช้พัฒนาลูกหลานได้อย่างตรงจุด รับรองได้เลยว่า เด็กจะค้นพบตนเอง และมีทักษะที่ดีเพิ่มมากขึ้น