วิตามินบี1 (ไทอะมีน) ประโยชน์ของวิตามินบี1

วิตามินบี 1 (Vitamin B1) หรือ ไทอามีน (Thiamin) เป็นสารอาหารสำคัญที่มีส่วนช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกาย ช่วยบำรุงสมอง บำรุงหัวใจ จึงควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และอุดมไปด้วยวิตามินบี 1 เป็นประจำเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะขาดวิตามินบี เพราะอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ตามมาได้ เช่น มือเท้าชา แขนขาอ่อนแรง ความจำเสื่อม

วิตามินบี1 (ไทอะมีน) ประโยชน์ของวิตามินบี1

วิตามินบี 1 คืออะไร

ไทอามีน (Thiamin)  หรือวิตามินบี 1 (Vitamin B1)  เป็นสารอาหารสำคัญในกลุ่มของวิตามินบี โดยเป็นวิตามินที่สามารถละลายในน้ำได้  เมื่อวิตามินบี 1 เข้าสู่ร่างกายจะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด เมื่อย่อยสลายหมดแล้วจะถูกขับออกจากร่างกายผ่านปัสสาวะ โดยวิตามินบี 1 ยังเป็นวิตามินที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต และมีส่วนช่วยสำคัญในการกระตุ้นการทำงานของเซลล์ประสาทและระบบหัวใจด้วย

ข้อเท็จจริงที่ควรรู้

วิตามินบี1 หรือ ไทอะมีน เป็นวิตามินที่ละลายในน้ำ ร่างกายไม่สามารถเก็บสะสมไว้ได้ หากมีอยู่ในร่างกายมากเกินไปก็จะถูกขับออกมา จึงจำเป็นที่จะได้รับทุกวัน – มีหน่วยวัดเป็นมิลลิกรัม (มก. หรือ mg.)

– วิตามินบีแต่ละตัวจะทำงานเสริมซึ่งกันและกัน ต้องทานร่วมกันจึงจะมีประสิทธิภาพมากกว่าแยกทาน โดยวิตามินบี1 วิตามินบี2 วิตามินบี6 ควรรับประทานในปริมาณที่เท่าๆกัน

– ปริมาณที่แนะนำให้รับประทานต่อวันคือ 1-1.5 มก.สำหรับผู้ใหญ่ และ 1.5-1.6 มก.สำหรับหญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร

– เมื่อเจ็บป่วย มีอาการเครียด ผ่าตัด ร่างกายจะต้องการเพิ่มมากขึ้นเป็นพิเศษ

– วิตามินบี1 มีชื่อเรียกว่า “วิตามินเสริมขวัญและกำลังใจ” เพราะช่วยบำรุงประสาท

– มีคุณสมบัติในการขับปัสสาวะอย่างอ่อนๆ

ประโยชน์ของวิตามินบี 1

1. รักษาโรคจากการวิตามินบี1 คือ โรคเหน็บชา

2. เสริมสร้างการเจริญเติบโต

3. ช่วยย่อยอาหารจำพวก แป้ง ได้ดี

4. บำรุงประสาท กล้ามเนื้อ และหัวใจให้ทำงานเป็นปกติ

5. ช่วยบำรุงสมอง ความคิด สติปัญญาให้ดีขึ้น

6. ช่วยบรรเทาอาการเมารถ เมาเรือ เมาเครื่องบิน

7. บรรเทาอาการเจ็บปวดหลังผ่าตัดทำฟัน

8. รักษาโรคงูสวัด

แหล่งที่พบได้ในธรรมชาติ

ผัก โฮลวีท ถั่วเหลือง ข้าวโอ๊ต ถั่วลิสง รำข้าว เปลือกข้าว เมล็ดที่ไม่ผ่านการขัดสี บริวเวอร์ยีสต์ นม ไข่แดง ปลา เนื้อออร์แกนิก เนื้อหมูไม่ติดมัน

วิตามินบี 1 ในรูปของอาหารเสริม

มีปริมาณตั้งแต่ 25 – 500 mg. จะมีประสิทธิภาพดีมากหากอยู่ในรูปของวิตามินบีรวม เช่น บี2 บี6 บี12 กรดแพนโทเทนิก กรดโฟลิก โดยขนาดที่แนะนำให้รับประทานคือ 100-300 mg.

ผลเสียของการรับประทานเกินขนาด

ยังไม่พบว่ามีอาการเป็นพิษ เพราะหากเรารับประทานเกินขนาด ก็จะถูกขับออกทางปัสสาวะและไม่มีการสะสมแต่อย่างใดเพราะเป็นวิตามินที่ละลายในน้ำ หากมีอาการ (ซึ่งพบได้น้อยมากๆหรือแทบไม่เกิดเลย) ก็คือ สั่น โรคเริมกำเริบ ตัวบวม กระวนกระวาย หัวใจเต้นเร็ว และภูมิแพ้

ศัตรรูของวิตามินบี 1

– วิธีการปรุงอาหาร เช่น ความร้อนจากการทำอาหาร

– กาเฟอีน

– แอลกอฮอล์

– น้ำ อากาศ

– ฮอร์โมนเอสโทรเจน

– ยาลดกรดในกระเพาะ

– ยาในกลุ่มซัลฟา

คำแนะนำ

– หากคุณเป็นคนที่ชอบรับประทานอาหารหวานจัด ดิ่มเหล้า สูบบุหรี่เป็นประจำ ร่างกายจะต้องการวิตามินบี1 เพิ่มมากขึ้น

– หากตั้งครรภ์ ให้นมบุตร หรือกินยาคุม คุณต้องได้รับวิตามินบี1 มากกว่าปกติ

– หากรับประทานยาลดกรดในกระเพาะหลังอาหารเป็นประจำ คุณอาจไม่ได้รับวิตามินบี1 ที่ควรจะได้จากอาหารมื้อนั้นๆ

– ในภาวะเครียด เจ็บป่วย มีอาการบาดเจ็บหลังผ่าตัด คุณควรรับประทานวิตามินบีรวมเสริมด้วย