การวางแผนธุรกรรมทางการเงินเพื่อสุขภาพ

หากคุณมีอายุ 30 ปีในตอนนี้ นั่นก็หมายถึงว่า ถ้าอายุเฉลี่ยของคนเราอยู่ที่ประมาณ 60 ปี คุณก็เดินทางมาถึงครึ่งทางของชีวิต เรามาสำรวจกันดีกว่าว่าอีกครึ่งทางที่เหลืออยู่ชีวิตคุณจะเป็นอย่างไร ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า อายุขัยของมนุษย์เราย่อมมีความเสื่อมและยิ่งอายุมากขึ้น ความเสื่อมของร่างกายก็จะยิ่งชัดเจนยิ่งขึ้น เงินทองทั้งหมดที่เราหามาได้ในช่วงก่อร่างสร้างตัว ก็อาจจะต้องหมดไปกับค่ารักษาพยาบาลหรือการดูแลสุขภาพ ยังไม่นับรวมถึงค่าใช้จ่ายส่วนตัวที่คุณต้องกินต้องใช้ ในยามที่ร่างกายเสื่อมลง คุณอาจจะต้องเผชิญกับค่าใช้จ่ายในด้านสุขภาพมากขึ้น หลายคนอาจพบว่าเป็นโรคร้ายที่อาจทำให้เงินทองที่หามาได้แทบหมดไป วิธีที่ดีที่สุดก็คือ การกันไว้ดีกว่าแก้ ถ้าไม่อยากเหนื่อยยากลำบากตอนแก่ รีบจัดการวางแผนจัดการเรื่องการเงินเสียแต่วันนี้ ใครไม่อยากแย่ตอนแก่ต้องรีบจัดการด่วนเลย

สิ่งแรกที่คุณควรทำก็คือ แบ่งรายได้ออกเป็นส่วนๆ ตามแต่เงินรายได้ที่คุณหามาได้ คือ รายได้แต่ละเอียดแบ่งไว้ราว 60% เก็บไว้เป็นเงินสำหรับค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน 20% เก็บไว้เป็นเงินออม อาจแบ่งเป็น 15% เงินออมปกติ 5% สำหรับเงินออมไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน 10% สำหรับเข้ากองทุนสุขภาพ 10% สำหรับการท่องเที่ยวและการพักผ่อนหย่อนใจ

การวางแผนธุรกรรมทางการเงินเพื่อสุขภาพ

การออมเงินที่คุ้มค่าและมั่นคงที่สุดก็คือ การออมไว้ในประกันชีวิตและสุขภาพ เนื่องจากมีความเสี่ยงน้อย การซื้อประกันสุขภาพควรทำก่อนอายุ 30 ปี อาจซื้อควบคู่ไปกับประกันอุบัติเหตุ ประกันเพื่อหลังเกษียณ เป็นการประกันสุขภาพระยะยาว ส่วนมากจะทำจนถึงอายุ 60 ปี คุ้มครองสูงสุดถึง 99 ปี ซึ่งคุณควรศึกษาถึงผลประโยชน์ที่คุณควรจะได้รับ อาทิ ค่าชดเชย ค่าห้อง เงินคืนเมื่อครบกำหนด ควรเลือกแบบคุ้มครองระยะยาวดีกว่าระยะสั้น เพราะยิ่งอายุมากขึ้นคุณก็ยิ่งต้องจ่ายเบี้ยสูง ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อประกันคุณควรสำรวจดูความพร้อมตัวคุณเองก่อนว่าเหมาะกับการผ่อนชำระแบบไหน จะจ่ายแบบรายเดือนหรือรายปี เลือกเอาแบบที่คุณไม่ต้องเดือนร้อนภายหลัง รวมไปถึงระยะเวลาในการส่งและการคุ้มครองให้เหมาะกับวัยและความเสี่ยงของคุณให้มากที่สุด พิเศษสำหรับสาวๆ ควรเลือกประกันที่คุ้มครองโรคร้ายที่มักเป็นเฉพาะในผู้หญิง อย่างเช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก ซึ่งการประกันสุขภาพจะทำให้ต้นทุนด้านการดูแลสุขภาพของคุณต่ำกว่าค่ารักษาพยาบาลเป็นอย่างมาก

นอกจากการทำประกันชีวิต ซึ่งเป็นการวางแผนล่วงหน้าเพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่คุณอาจจะต้องมีค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพและการรักษาพยาบาลแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญก็คือ การหมั่นตรวจสุขภาพเพื่อให้คุณได้รู้ตัวแต่เนิ่นๆ หากเกิดเป็นโรคร้ายใดขึ้น เพราะจะมีผลดีอย่างยิ่งต่อการรักษา ควรตรวจสุขภาพปีละ 1 ครั้ง โปรแกรมตรวจสุขภาพมีหลายราคา ทั้งโรงพยาบาลของรัฐและเอกชน ราคามีตั้งแต่หลักร้อยจนถึงหลักหลายพันบาท ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับประเภทและเครื่องมือที่ใช้ในการตรวจ ซึ่งคุณควรเลือกให้เหมาะกับปัจจัยเสี่ยงและรายได้ของคุณเอง ซึ่งอาจไม่จำเป็นต้องจ่ายแพงเสมอไป แต่เลือกที่จำเป็นและเหมาะกับคุณให้มากที่สุดเพื่อให้คุ้มค่ากับเงินที่คุณจ่ายไป โดยอาจดูจากประวัติโรคของครอบครัว อายุ การใช้ชีวิตและพฤติกรรมความเสี่ยง คุณสามารถใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจเลือกโปรแกรมการตรวจสุขภาพของคุณได้

สำหรับคนที่อาจมีรายได้น้อย ฐานะปานกลาง อาจลองพิจารณาโรงพยาบาลของรัฐ ซึ่งเน้นการตรวจโรค คุณสามารถเลือกตรวจโรคตามความเสี่ยงของคุณ ต่างกับโรงพยาบาลเอกชนที่จัดเป็นแพ็คเกจมาให้คุณเลือก แต่ก็แลกกับค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นด้วยเช่นกัน ไม่ว่าคุณจะมีอายุน้อยกว่า 30 ปี หรืออายุเกินกว่า 30 ปี สิ่งสำคัญก็คือ การหมั่นดูแลสุขภาพ ทานอาหารที่มีประโยชน์ หมั่นออกกำลังกาย หาหลักประกันในด้านสุขภาพ เพื่อที่เมื่อเกิดเรื่องร้ายๆ ขึ้นคุณจะได้มีตัวช่วยไม่ต้องจ่ายเงินที่หามาได้ทั้งหมดไปเพื่อการรักษาจนหมดเนื้อหมดตัว สิ่งสำคัญที่สุดก็คือการมีสุขภาพที่แข็งแรงจะช่วยให้คุณห่างไกลจากโรคร้าย ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุดที่สุด การตรวจสุขภาพเป็นเพียงการเช็คเพื่อความมั่นใจว่าคุณไม่ได้เป็นโรคร้ายใดๆ การประกันสุขภาพก็เพิ่มความมั่นใจให้กับคุณได้หากพบโรคร้ายใดๆ คุณก็มีคนช่วยเรื่องค่ารักษาพยาบาลไม่จำเป็นต้องมานั่งเครียดในภายหลัง