เพิ่มความสดชื่นให้ชีวิตกับ 8 น้ำตกดังของไทย สวยจนติดใจนักท่องเที่ยวทั่วโลก

นอนแช่น้ำให้ชื่นใจ เที่ยวชุ่มฉ่ำได้แม้วันฝนตกกับ 8 น้ำตกของไทย ขึ้นชื่อเรื่องความงามตามธรรมชาติที่น่าตื่นตาตื่นใจ  แถมยังคงความอุดมสมบูรณ์ไว้ได้เป็นอย่างดี พาตัวไปนอนแช่น้ำเย็นและแหงนหน้ามองท้องฟ้าแสนสดใส ถ้าต้องการปล่อยให้กายและใจไหลไปกับสายน้ำ มาปักหมุดกันทางนี้ได้เลย!

1.น้ำตกเอราวัณ

น้ำตกเอราวัณ จังหวัดกาญจนบุรี เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่สวยงาม ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำแควใหญ่ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมาชมความงามของน้ำตกที่เป็นอัญมณีสีมรกตแห่งนี้ โดยน้ำตกจะแบ่งออกเป็น 7 ชั้น แต่ละชั้นมีความสวยงามแตกต่างกันออกไปและมีแอ่งน้ำให้เล่นอย่างสนุก นอกจากนี้ ยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติที่ผ่านป่าดงดิบเขียวขจีให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมธรรมชาติอย่างใกล้ชิด โดยแต่ละชั้นจะมีทัศนียภาพที่แตกต่างกันออกไป ชั้นบนสุดของน้ำตกมีลักษณะคล้ายกับช้างเอราวัณ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อน้ำตก ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติเอราวัณ ตำบลท่ากระดาน อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี เปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น.

2.น้ำตกเจ็ดสาวน้อย

อุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อยจะไม่สูงมาก แต่ก่อตัวเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่ที่มีน้ำสีเขียวใสราวกับมรกต เหมาะแก่การลงเล่นน้ำเป็นอย่างยิ่ง นักท่องเที่ยวสามารถเดินข้ามแอ่งน้ำไปสู่จุดอื่น หรือจะแวะนั่งแช่น้ำตกก็ทำได้ตามต้องการ ถือเป็นจุดหมายปลายทางการเที่ยวน้ำตกที่สมบูรณ์แบบใกล้กรุงเทพฯ ให้การพักผ่อนและความสนุกสนานได้ตลอดทั้งวัน พร้อมได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้มาเยือนเข้าถึงได้ง่าย ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาตินํ้าตกเจ็ดสาวน้อย หมู่ 9 ตำบลมวกเหล็ก อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี เปิดให้เข้ามาเที่ยวได้ตั้งแต่ 08.00-17.00 น. มีการเก็บค่าเข้าชม โดยคนไทย ผู้ใหญ่ 20 บาท และเด็ก 10 บาท ส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 100 บาท และเด็ก 50 บาท

3.น้ำตกทีลอซู

น้ำตกทีลอซูเป็นน้ำตกที่สวยติดอันดับโลก ตั้งอยู่บนความสูง 900 เมตร จากระดับน้ำทะเล มีความกว้างประมาณ 500 เมตร โดยความงดงามตระการตา คือ ภาพของน้ำที่ไหลลงมาจากหน้าผาสูงชัน ไหลเป็นชั้น ๆ กระทบกับโขดหิน พร้อมรายล้อมไปด้วยป่าไม้อันเขียวชอุ่ม กลายเป็นจุดหมายยอดนิยมของใครหลาย ๆ คน และเหมาะสำหรับผู้ที่รักธรรมชาติ รักการผจญภัย ไม่ว่าจะเดินทางโดยรถยนต์ เรือ หรือเดินเท้าก็คุ้มค่าอย่างแน่นอน ในแง่ของกิจกรรมต่าง ๆ มีกิจกรรมให้เลือกหลากหลาย เช่น การล่องแพ ตั้งแคมป์ และชมสายรุ้งที่สวยงามจากน้ำตกทีลอซู โดยตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าอุ้มผาง เปิดให้เข้ามาเที่ยวได้ตั้งแต่ 08.30-16.30 น. สำหรับปี 2567 สามารถเข้าชมและท่องเที่ยวได้อีกครั้งในวันที่ 1 กันยายน ซึ่งมีการปิดเพื่อฟื้นฟูมาตั้งแต่ 1 กรกฎาคม-31 สิงหาคม 2567 และอาจมีประกาศปิดช่วงน้ำท่วม ดังนั้น ก่อนจะเดินทางไปจึงควรติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่ของอุทยานก่อนเสมอ โดยสามารถติดต่อได้ที่ Facebook : UmphangWildlifeSanctuary

4.น้ำตกวังตะไคร้

อุทยานแห่งชาติวังตะไคร้ มีแม่น้ำสายยาวและน้ำตกวังตะไคร้ ที่ยังคงมีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ มีต้นไม้น้อยใหญ่หลากหลายชนิด ครอบคลุมพื้นที่กว่า 300 ไร่ อยู่ใกล้กับเขื่อนขุนด่านปราการชล จึงมีที่พักและร้านอาหารไว้คอยบริการ ในช่วงเดือนกรกฎาคม-ตุลาคม วังตะไคร้ได้รับลมเย็นจากทิศตะวันตกเฉียงใต้ ทำให้มีฝนตกหนัก บริเวณเนินเขาโดยรอบมีพันธุ์ไม้นานาชนิดและมีน้ำไหลเชี่ยว จึงเหมาะแก่การล่องแพเป็นอย่างยิ่ง มีอัตราค่าบริการเข้าอุทยานฯ คนละ 20 บาท  รถยนต์ผู้โดยสารไม่เกิน 8 คน คันละ 150 บาท ถ้ามาเกินคิดเพิ่มคนละ 10 บาท รถจักรยานยนต์ต้องจอดไว้บริเวณด้านหน้าทางเข้า ค่าจอดคันละ 50 บาท ที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวก ทางอุทยานฯ มีไว้ให้บริการนักท่องเที่ยว เปิดทุกวันเวลา 08.00-17.00 น. สามารถเข้าไปดูการอัปเดตข่าวสารได้ที่เว็บไซต์  www.wangtakrai.com

5.น้ำตกวังก้านเหลือง

มาเที่ยวลพบุรีแล้วชมความงามของธรรมชาติที่น้ำตกวังก้านเหลือง ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาชนรัก น้ำตกแห่งนี้อาจไม่ใหญ่มากนัก แต่ไหลตลอดทั้งปี จุดเด่นของน้ำตกแห่งนี้ คือ มีต้นน้ำใต้ดินขนาดใหญ่ น้ำจะไหลมาจากแม่น้ำกกประมาณ 1 กิโลเมตร ก่อนจะไหลมาบรรจบกันที่บริเวณหน้าผาหินปูน กลายเป็นน้ำตกที่สวยงาม ไม่ใช่น้ำตกที่ไหลลดหลั่นเป็นชั้น ๆ  แต่เป็นน้ำตกที่ไหลมาบรรจบกันเป็นสาย เกิดเป็นทัศนียภาพที่สวยงามเกินคาด ตั้งอยู่ที่ตำบลท่าดินดำ อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี เปิดให้เข้าชมได้ตั้งแต่ 08.00–18.00 น.

6.น้ำตกคลองพลู

หากพูดถึงน้ำตกที่สวยงามบนเกาะช้าง จังหวัดตราด น้ำตกคลองพลูคือที่ 1 เหมาะกับคนอยากพักผ่อนชิลล์ ๆ รับรองว่าแล้วจะต้องสนุกและผ่อนคลายอย่างแน่นอน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมบนเกาะช้างที่คนรักธรรมชาติไม่ควรพลาด  บริเวณรอบน้ำตกจะมีจุดกระโดดน้ำให้คลายร้อน สายน้ำจะไหลลงมาจากหน้าผาสูงลงสู่แอ่งน้ำเบื้องล่าง มีทั้งหมด 3 ชั้น  โดยชั้นแรกสูงประมาณ 40 เมตร และชั้นถัดไปจะสูงกว่านี้ แนะนำให้มาในช่วงเดือนตุลาคมถึงมกราคมของอีกปี เพื่อประสบการณ์ที่ดีที่สุด น้ำตกจะอยู่ห่างจากชุมชนคลองพลูประมาณ 3 กิโลเมตร ขับมาตามถนนไปจนถึงหาดคลองกลอย  แล้วเลี้ยวเข้าไปอีก 2 กิโลเมตร เมื่อถึงจุดตรวจอุทยานแห่งชาติบนถนนคลองพลู เดินต่อไปประมาณ 500 เมตรก็จะถึงน้ำตก มีเวลาเปิด-ปิดตั้งแต่ 08.00-16.30 น. ค่าเข้าชมอุทยานฯ ผู้ใหญ่ 40 บาท และเด็ก 20 บาท

7.น้ำตกเหวสุวัต

น้ำตกห้วยสุวัต เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงมากในช่วงเวลาหนึ่ง ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อยู่สุดถนนธนะรัชต์ สามารถเดินทางถึงได้โดยรถยนต์ หรือหากใครชอบผจญภัยก็เดินป่าจากเส้นทางศึกษาธรรมชาติไปประมาณ 3.8 กิโลเมตร น้ำตกแห่งนี้จะงดงามเป็นพิเศษในช่วงฤดูฝน เพราะน้ำจะไหลลงมาจากหน้าผา ทำให้เกิดทัศนียภาพที่เขียวชอุ่มและสดชื่น แต่จะไม่อนุญาตให้ว่ายน้ำเพราะค่อนข้างอันตราย จึงแนะนำให้หาจุดชมน้ำตกและถ่ายภาพเก็บความสวยงามก็เพียงพอแล้ว จะมีจุดชมวิวหลัก 2 จุด คือ บนหน้าผาและด้านล่างใกล้กับสระน้ำกับลำธาร เปิดให้เข้าชมตั้งแต่ 08.00-18.00 น.

8.น้ำตกผาร่มเย็น

น้ำตกผาร่มเย็นจากอุทัยธานี เป็นน้ำตกที่มีความสูงประมาณ 100 เมตร สูง 4 ชั้น ให้บรรยากาศที่สดชื่นและเย็นสบาย  เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ มีเส้นทางเดินป่าชมทิวทัศน์ไปจนถึงน้ำตก ซึ่งมีความยาวประมาณ 400 เมตร ใช้เวลาเดินทาง 20 นาที โดยเส้นทางยังคงอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชพรรณต่าง ๆ ถือเป็นน้ำตกที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในจังหวัดอุทัยธานี เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมองหาที่พักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ ช่วยเติมพลัง หรือการพักผ่อนในช่วงฤดูฝนที่ดีที่สุด น้ำตกจะอยู่ในเขตตำบลเจ้าวัด อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี มีเวลาเปิด-ปิด คือ 08.30-17.00 น. เพราะฉะนั้นก่อนไปควรวางแผนเรื่องเวลาให้ดี

เที่ยวอย่างสดชื่นไปกับน้ำตกชื่อดังของไทย ช่วยคลายร้อน สร้างความสุขด้วยบรรยากาศที่ยอดเยี่ยม การได้นั่งดูน้ำตกที่ไหลลงมาเป็นชั้น พร้อมการได้ลงเล่นน้ำเย็นสบาย คือหนึ่งในจุดหมายปลายทางของคนมาพักผ่อนอย่างแท้จริง เพียงแต่ก่อนมาเช็คการเปิดปิดหรือการอนุญาตให้เข้าชมน้ำตกเสียก่อน เพื่อที่จะได้ไม่เสียเที่ยว!