ในปัจจุบันการใช้ภาษาอังกฤษได้แพร่หลายไปในทุกประเทศทั่วโลก จนได้รับการขนานนามว่าเป็น ‘ภาษาสากล’ เพราะเป็นภาษากลางที่ใช้ในการสื่อสารระหว่างประเทศหนึ่งกับอีกประเทสหนึ่งนั่นเอง ซึ่งสิ่งที่ควรรู้เมื่อต้องใช้งานภาษาอังกฤษเลยนั่นก็คือ ‘12 Tense’ นั่นเอง
Tense คืออะไร
Tense คือ การใช้งานรูปแบบของคำกิริยาที่มีเวลาเป็นตัวตั้ง ทั้งในรูปแบบ Past (อดีตหรือเหตุการณ์ที่ล่วงเลยมาแล้ว) Present (ปัจจุบันหรือเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น) และ Future (อนาคตหรือเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น) ซึ่งทั้งสาม Tense นี้มีการใช้งานที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับเหตุการณ์ในประโยคทั้งสิ้น
ตาราง 12 Tense
โครงสร้าง 12 Tense มีอะไรบ้าง
อย่างที่ทราบไปเบื้องต้นแล้วว่าทั้ง 12 Tense นั้นแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ซึ่งใน 3 ประเภทนี้สามารถแบ่งย่อยได้อีก ดังนี้
Past Tense
อดีตหรือเหตุการณ์ที่ล่วงเลยมาแล้ว แบ่งออกเป็น 4 รูปแบบ ได้แก่
1. Past Simple Tense คือ ใช้กับเหตุการณ์ในอดีตที่จบลงไปแล้ว
Past Simple Tense โครงสร้าง : S + V2 (Regular Verb)
Past simple tense ตัวอย่างประโยค
- I lived in Bangkok for 5 years ago. ฉันอาศัยอยู่ที่กรุงเทพมา 5 ปีแล้ว (แต่ตอนนี้ไม่ได้อยู่แล้ว)
- Mom called me at last night. แม่โทรหาฉันเมื่อคืน (โทรหาไปแล้ว)
- Billy and Marry went to the mall. บิลลี่และแมรี่ไปที่ห้างสรรพสินค้า (ไปมาแล้ว)
2. Past Continuous Tense คือ ใช้กับเหตุการณ์ในอดีตที่กำลังเกิดขึ้น
Past Continuous Tense โครงสร้าง : S + was/were + V.ing
Past Continuous Tense ตัวอย่างประโยค
- She was watching a movie yesterday. เธอกำลังดูหนังเมื่อวานนี้
- Mom was cooking dinner yesterday at 6pm. แม่กำลังทำอาหารเย็นเมื่อวานนี้
- They were going to the school for test the exam on yesterday. พวกเขากำลังไปสอบที่โรงเรียนเมื่อวาน
3. Past Perfect Tense คือ ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตและมีอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อ
Past Perfect Tense โครงสร้าง : S + V3 (Irregular Verb)
4. Past Perfect Continuous Tense คือ ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตแล้วต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันก่อนที่จะเจอกับอีกหนึ่งเหตุการณ์ในอดีต
Past Perfect Continuous Tense โครงสร้าง : S + had been + V.ing
Present Tense
ปัจจุบันหรือเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น แบ่งออกเป็น 4 รูปแบบ ได้แก่
1. Present Simple Tense คือ ใช้กับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบันอย่างเป็นประจำ
Present Simple Tense โครงสร้าง : S + V1 (s/es)
Present Simple Tense ตัวอย่างประโยค
- She drinks water. หล่อนดื่มน้ำ (เป็นประจำ)
- He plays football. เขาเล่นฟุตบอล (เป็นประจำ)
- They goes to school. พวกเขาไปโรงเรียน (เป็นประจำ)
2. Present Continuous Tense คือ ใช้กับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่และยังคงเกิดขึ้นในปัจจุบัน
Present Continuous Tense โครงสร้าง : S + V.to be (is , am , are) + V.ing
Present Continuous Tense ตัวอย่างประโยค
- He’s (is) playing football. เขากำลังเล่นฟุตบอล
- They’re (are) going to school. พวกเขากำลังไปโรงเรียน
3. Present Perfect Tense คือใช้กับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในอดีตและจบลงในปัจจุบัน
Present Perfect Tense โครงสร้าง : S + has/have + V3 (Irregular Verb)
Present Perfect Tense ตัวอย่างประโยค
- She has drunk water. เขาดื่มน้ำ (ไปแล้ว)
- He has played football. เขาเล่นฟุตบอล (ไปแล้ว)
- They have gone to school. พวกเขาไปโรงเรียน (มาแล้ว)
4. Present Perfect Continuous Tense คือ ใช้กับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในอดีตและส่งผลมาถึงเหตุการณ์ในปัจจุบันอย่างต่อเนื่อง
Present Perfect Continuous Tense โครงสร้าง : S + has/have been + V.ing
Present Perfect Continuous Tense ตัวอย่างประโยค
- She has been drinking water. หล่อนยังคงดื่มน้ำอยู่
- He has been playing football. เขายังคงเล่นฟุตบอลอยู่
- They have been going to school. พวกเขายังคงไปโรงเรียนอยู่
Future Tense
อนาคตหรือเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น แบ่งออกเป็น 4 รูปแบบ ได้แก่
1. Future Simple Tense คือ ใช้กับเหตุการณ์ที่ใกล้หรือกำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต
Future Simple Tense โครงสร้าง : S + will + V1
Future Simple Tense ตัวอย่างประโยค
- She will drink water. หล่อนจะดื่มน้ำ
- He will play football. เขาจะเล่นฟุตบอล
- They will go to school. พวกเขาจะไปโรงเรียน
2. Future Continuous Tense คือ ใช้กับเหตุการณ์ที่คาดว่าน่าจะเกิดขึ้นในอนาคต โดยมีการระบุวันหรือช่วงเวลาเอาไว้
Future Continuous Tense โครงสร้าง : S+ will be + V.ing
Future Continuous Tense ตัวอย่างประโยค
- She will be drinking water at 8pm. หล่อนจะดื่มน้ำตอน 2 ทุ่ม
- He will be playing football on tomorrow. เขาจะไปเล่นฟุตบอลพรุ่งนี้
- They will be going to school at 7am. พวกเขาจะไปโรงเรียนตอน 7 โมงเช้า
3. Future Perfect Tense คือ ใช้กับเหตุการณ์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต และดำเนินไปจนเสร็จตามช่วงเวลาที่ระบุเอาไว้
Future Perfect Tense โครงสร้าง : S + will have + V.3 (Irregular Verb)
Future Perfect Tense ตัวอย่างประโยค
- She will have watched movie Sunday evening. หล่อนคงจะดูหนังเสร็จวันตอนบ่ายวันจันทร์
- He will have played football at 6pm. เขาคงจะเล่นฟุตบอลเสร็จตอน 6 โมงเย็น
- They will have studied at 4pm. พวกเขาคงจะเรียนเสร็จตอน 4 โมงเย็น
4. Future Perfect Continuous Tense คือ ใช้กับเหตุการณ์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต และจะยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง
Future Perfect Continuous Tense โครงสร้าง : S + will have been + V.ing
บทสรุป 12 Tense
ในการใช้ภาษาอังกฤษนอกเหนือจากการที่รู้คำศัพท์ที่หลากหลายแล้ว การศึกษาเรื่อง Tense หรือ Grammar ให้เกิดความเข้าใจอย่างถ่องแท้นั้น ก็ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อที่จะทำให้เราสามารถใช้ภาษาอังกฤษในการเรียน การสอบ และการศึกษาที่ถูกต้อง ซึ่งจะเป็นพื้นฐานในการใช้ชีวิตในอนาคตได้