นิทานชาดก โลภมากลาภหาย

นิทานชาดก โลภมากลาภหาย

ในสมัยหนึ่ง พระพุทธเจ้า ประทับอยู่วัดเชตวัน เมืองสาวัตถี ทรงปรารภภิกษุณีชื่อถูลนันทา ผู้ไม่รู้จักประมาณในการบริโภคกระเทียม สร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้าน ได้ตรัสอดีตนิทานมาสาธกว่า

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว พระโพธิสัตว์ได้เกิดเป็นพราหมณ์ตระกูลหนึ่ง มีภรรยาและได้ลูกสาว ๓ คน ชื่อ นันทา นันทวดี และสุนันทา พอลูกสาวทั้ง ๓ ได้สามีแล้ว พราหมณ์ก็ได้เสียชีวิต และไปเกิดเป็นหงส์ทองคำสามารถระลึกชาติได้

วันหนึ่ง ได้เห็นความลำบากของนางพราหมณีและลูกสาวของตนที่ต้องทำงานรับจ้างคนอื่น เลี้ยงชีพ จึงเกิดความสงสาร ได้โผบินไปจับที่บ้านนางพราหมณีแล้วเล่าเรื่องราวให้แก่นางพราหมณีและลูกสาว ฟัง และยังได้สลัดขนให้แก่พวกเขาเหล่านั้นคนละหนึ่งเส้นขนแล้วก็บินจากไป หงส์ทองได้มาหาเป็นระยะๆ มาครั้งใดก็สลัดขนให้ครั้งละหนึ่งเส้นขน ด้วยเหตุนี้นางพราหมณีและลูกสาวจึงร่ำรวยและมีความสุขไปตามๆ กัน

ต่อมาวันหนึ่งนางพราหมณีได้บังเกิดความโลภขึ้นจึงปรึกษากับลูกๆ ว่า ” ถ้าหงส์ทองมาในครั้งนี้ พวกเรา จะจับถอนขนเสียให้หมด เพื่อจะได้มีทรัพย์สมบัติมากมาย ” พวกลูกๆ ไม่เห็นดีด้วย แต่นางพราหมณีไม่สนใจ ครั้นวันหนึ่งพญาหงส์ทองมาอีก นางก็ได้จับถอนขนเสียจนหมด ขนเหล่านั้นกลายเป็นขนนกธรรมดาไป เพราะพญาหงส์ทองมิได้ให้ด้วยความสมัครใจ นางพราหมณีได้เลี้ยงหงส์ทองนั้นจนขนงอกขึ้นใหม่เต็มตัว หงส์ก็ได้บินหนีไปโดยไม่ได้กลับมาอีกเลย

พระพุทธองค์ เมื่อนำอดีตนิทานมาสาธกแล้ว ได้ตรัสพระคาถาว่า
” บุคคลได้สิ่งใด ควรยินดีสิ่งนั้น เพราะความโลภเกินประมาณ เป็นความชั่วแท้
นางพราหมณี จับเอาพญาหงส์ทองแล้วจึงเสื่อมจากทองคำ “

 

นิทานชาดก โลภมากลาภหายเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

โลภมาก มักลาภหาย