นิทานพื้นบ้าน เรื่อง สระหนองเอี้ยง
ในครั้งพุทธกาล เมื่อพระพุทธองค์มีพระชนมายุ 60 พรรษา พระองค์ทรงคิดถึงเวลาที่ใกล้จะเสด็จปรินิพพาน จึงมีดำริที่จะเผยแผ่พระพุทธศาสนาในนานาประเทศดังนั้น พระพุทธองค์พร้อมด้วยพระอานนท์และพระอรหันตสาวกจึงได้เสด็จสู่แดนสุวรรณภูมิ
ทุกแห่งที่พระพุทธองค์เสด็จไปถึง พระองค์จะทรงมอบพระเกศาธาตุมาบรรจุไว้ ณ สถานที่แห่งนั้น จนกระทั่งพระองค์เสด็จมาถึงเมืองภูกามยาว หรือ เมืองพะเยาในปัจจุบัน และยังได้ประทับ ณ จอมดอยลูกหนึ่งที่ตั้งอยู่ริมฝั่งสระหนองเอี้ยง
นายช่างทองที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านได้จัดอาหารมาถวายแด่พระพุทธองค์และพระ อรหันตสาวก พระพุทธองค์ได้มอบพระเกศาธาตุ 1 เส้นแก่พระอานนท์ ซึ่งพระอานนท์ได้นำไปมอบให้แก่นายช่างทอง แล้วนายช่างทองก็นำพระเกศาธาตุบรรจุไว้ในกระบอกไม้รวก จากนั้นจึงทำผอบแก้ว ผอบทองคำ ผอบเงิน ผอบทองแดง ผอบทองเหลืองและผอบหิน บรรจุเป็น 7 ชิ้น นำไปถวายแด่พระเจ้าอโศกซึ่งพระเจ้าอโศกก็นำขึ้นถวายพระอินทร์ แล้วพระอินทร์จึงมีรับสั่งให้พระวิษณุกรรมนำไปประดิษฐานไว้ในถ้ำใต้จอมดอย ลึกลงไปถึง 70 วา โดยพระอินทร์ทรงจุดประทีปบูชาตลอดกาล (ดอยแห่งนี้จึงได้ชื่อว่า “ดอยจอมทอง”)
กล่าวถึงนายช่างทองที่ถวายแต่ภัตตาหารแด่พระพุทธองค์เท่านั้น ไม่ได้ถวายน้ำฉัน พระพุทธองค์จึงให้พระอานนท์นำบาตรไปตักน้ำที่สระหนองเอี้ยงข้างเชิงดอย แต่สระแห่งนี้มีพญานาคดูแลรักษาอยู่ เมื่อพญานาคเห็นพระอานนท์กำลังเดินมาตักน้ำก็แผ่พังพานปกคลุมสระจนมองไม่ เห็นน้ำ เพื่อไม่ให้พระอานนท์นำน้ำไปได้ พระอานนท์จึงนำเรื่องที่เกิดขึ้นมาทูลพระพุทธองค์ พระพุทธองค์จึงเสด็จไปยังสระหนองเอี้ยง ตรัสแสดงพระธรรมเทศนาแก่พญานาคจนพญานาคเกิดความเลื่อมใสศรัทธาถวายน้ำแด่ พระองค์และก่อนที่พระพุทธองค์จะเสด็จกลับได้ตรัสกับพญานาคว่า เมื่อเรา ปรินิพพานไปแล้ว ศาสนาของเราจะย่างเข้าถึงครึ่งค่อนห้าพันพระพรรษา ท่านจงมาสร้างรากฐานของพระพุทธศาสนาลงในสระแห่งนี้ และสร้างพระพุทธรูปให้ใหญ่เท่าพระเจ้ากะกุสันชะสัมมาสัมพุทธะสูง 32 วา
ครั้นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จดับขัน ธปรินิพพานได้ 2030 พรรษา พญานาคที่ดูแลรักษาสระหนองเอี้ยงได้รำลึกถึงพระพุทธดำรัสที่จะให้สร้างพระ พุทธรูปในสระหนองเอี้ยง จึงเนรมิตตนเป็นผู้นุ่งขาวห่มขาวขึ้นมาบนบก พร้อมกับนำทองคำจากเมืองบาดาลมาอย่างมากมาย พญานาคแปลงเดินทางมาจนกระทั่งพบกับสองตายายที่กำลังเลี้ยงเป็ดและห่านอยู่ ริมสระหนองเอี้ยง เมื่อพิจารณาดูแล้วเห็นว่าสองตายายนั้นเป็นคนดี มีความซื่อสัตย์ จึงได้กล่าวกับสองตายาย
“ตากับยายเป็นคนแถวนี้หรือจ้ะ” พญานาคแปลงพูดทักทาย
“ใช่จ้ะ” สองตายายตอบพร้อมกัน พลางมองหน้ากันด้วยความสงสัย เพราะไม่เคยเห็นชายที่นุ่งขาวห่มขาวมาก่อน
“พ่อหนุ่มเป็นคนต่างถิ่นหรือจ้ะ มีอะไรให้ตายายช่วยหรือไม่” ยายถามด้วยความเมตตา
“ใช่จ้ะยาย ฉันมีเรื่องขอร้องให้ตากับยายช่วยฉันหน่อยจ้ะ” ชายแปลกหน้ากล่าวด้วยความยินดียิ่งนักแล้วพญานาคแปลงก็เล่าเรื่องราวทั้งหมด ให้สองตายายฟัง พร้อมกับมองทองคำที่มีอยู่ให้สองตายายดำเนินการแทนตน
ครั้นสองตายายรับปากกับพญานาคแล้ว ก็เริ่มถมสระหนองเอี้ยงแล้วสร้างพระพุทธรูปตามที่พญานาคบอกทุกประการ โดยการก่อสร้างใช้เวลานานถึง 33 ปี จึงแล้วเสร็จในสมัยของพญาเมืองตู้เป็นเจ้าเมืองพะเยา ซึ่งพญานาคเมืองตู้ได้จัดให้มีพิธีทำบุญสมโภชพระพุทธรูปอย่างยิ่งใหญ่ และได้พระราชทานชื่อพระพุทธรูปนี้ว่า “พระเจ้าตนหลวงทุ่งเอี้ยงเมืองพะเยา”